จากจำนวน ผู้ติดเชื้อโควิด ที่เพิ่มขึ้น และการปรับการรักษาให้ยา ฟาวิพิราเวียร์ เร็วขึ้น ทำให้จำนวนการใช้ ยาฟาวิพิราเวียร์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น
7 ส.ค. 64 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ข้อมูลล่าสุดจนถึงวันที่ 4 ส.ค. 64 พบว่า มีความต้องการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ วันละ 8.5 แสนเม็ดต่อวัน ซึ่งได้จัดสรรลงพื้นที่ทั่วประเทศตั้งแต่ 7 ก.ค. ถึง 4 ส.ค. ไปแล้ว จำนวน 20.5 ล้านเม็ด
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้มอบให้องค์การเภสัชกรรมจัดหายาเพิ่มเติม เพื่อช่วยชีวิตคนป่วยได้ทันท่วงที โดยตั้งแต่เดือน ต.ค. ถึง ธ.ค. 64 ให้จัดหาเพิ่มขึ้นอีก 300 ล้านเม็ด (เดือนละ 100 ล้านเม็ด) โดยเฉพาะเดือน ส.ค. และ ก.ย. ให้จัดหา 120 ล้านเม็ด
สำหรับยาแรมดีสิเวีย (Remdesivir) ให้จัดหาเพิ่มอีก 1 แสนขวด รวมเป็น 2 แสนขวดภายในเดือน ส.ค.นี้ ให้เพียงพอตามเกณฑ์การรักษาใหม่เพื่อกระจายให้ทุกจังหวัด
สำหรับ หน้ากาก N 95 หน้ากากอนามัย ชุดกาวน์ ถุงมือ ถุงเท้า รองเท้า หมวกคลุมผม กว่า 11 รายการ จากข้อมูล นพ.เกียรติภูมิ เผยว่า มีการใช้เวชภัณฑ์ในแต่ละเดือนมากที่สุดจากทั่วประเทศ เช่น ถุงมือยาง มีการใช้ 19 ล้านกว่าคู่ รองลงมา หน้ากากอนามัย กว่า 16 ล้านชิ้น หมวกคลุมผม 3 ล้านชิ้น ชุดกาวน์ 1.6 ล้านชุด เป็นต้น
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์การใช้งานเพื่อสำรองให้เพียงพอในการใช้แต่ละเดือน โดยจัดซื้อด้วยงบกลางและงบเงินกู้ มีการจัดสรรไปยังภูมิภาคทุกสัปดาห์ หากพื้นที่ใดไม่เพียงพอ สามารถประสานขอสนับสนุนเวชภัณฑ์เร่งด่วน ได้ที่ กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
