สธ. เผย เด็กเล็ก เสี่ยงติดเชื้อ โควิด19 อาการรุนแรงมากขึ้น

กระทรวงสาธารณสุข สธ. เผย เด็กเล็ก เสี่ยงติดเชื้อ โควิด19 มากขึ้น เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีที่มีโรคประจำตัว จะมีความเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิตสูง

กระทรวงสาธารณสุข เผย เริ่มพบการติดเชื้อโควิด 19 ในเด็กเล็กมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีที่มีโรคประจำตัว จะมีความเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิตสูง เนื่องจากยังรับวัคซีนไม่ได้ โดยกลุ่มอายุ 0-6 เดือนความเสี่ยงอาการรุนแรงสูงสุด ย้ำผู้ปกครองสังเกตอาการ หากที่บ้านมีผู้ป่วยโควิดหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเด็กมีอาการป่วยให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที พร้อมแนะมาตรการป้องกันโควิด 4 ช่วงของเทศกาลสงกรานต์

ทั้งนี้ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงสถานการณ์โควิด 19 ว่า สถานการณ์โควิด 19 ขณะนี้ ผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจยังเพิ่มขึ้น แม้จะยังน้อยกว่าปี 2564 แต่การมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้ผู้ป่วยปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้ ส่วนผู้เสียชีวิตวันนี้มี 97 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม 608 และมีเด็กเสียชีวิต 2 ราย คือ อายุ 4 เดือน และ 10 กว่าปี

ซึ่งโรคโควิด 19 เริ่มแพร่ในกลุ่มเด็กเล็กเพิ่มขึ้น โดยเด็กอายุ 0-4 ปี ซึ่งยังไม่สามารถรับวัคซีนโควิด 19 ได้ ในระลอกโอมิครอนพบเสียชีวิตแล้ว 27 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว จึงขอให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังและสังเกตอาการเด็กที่มีโรคประจำตัวอย่างใกล้ชิด หากมีอาการป่วยผิดปกติ หรือคนในบ้านเป็นผู้ป่วยโควิดหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องรีบพาเด็กที่เริ่มมีอาการป่วยไปพบแพทย์โดยเร็ว

ซึ่งพบว่ากลุ่มเด็กเล็กอายุ 0-6 เดือน มีความเสี่ยงที่ป่วยแล้วจะมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตมากที่สุด ส่วนกลุ่มอายุ 5-12 ปี การเสียชีวิตค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะระลอกโอมิครอนนี้มีเพียง 3 ราย หรืออัตราตายน้อยกว่า 0.01% ดังนั้น กลุ่มวัยเรียนอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป การรับวัคซีนจะช่วยป้องกันการป่วยหนักได้อย่างดี

อีกทั้ง นพ.จักรรัฐ กล่าวต่อว่า ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการระบาดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในส่วนของกลุ่มเสี่ยงที่ป่วยแล้วจะอาการหนัก 3 กลุ่ม คือ

1.ผู้สูงวัยที่ไม่ค่อยออกนอกบ้านหรือกลุ่มติดเตียง ส่วนใหญ่รับเชื้อจากผู้ดูแล ญาติในบ้าน ผู้ที่มาเยี่ยม

2.กลุ่ม 608 ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากการไปสังสรรค์กับเพื่อน/คนรู้จัก การรวมกลุ่มทำกิจกรรม หรือไปสถานที่แออัด เช่น ตลาด ร้านอาหาร เป็นต้น และ

3.เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี จึงต้องย้ำกลุ่มเด็กวัยเรียนและวัยทำงานให้ระมัดระวังเพราะเป็นกลุ่มที่มีการติดเชื้อสูงและอาจนำไปแพร่ให้กับ 3 กลุ่มเสี่ยงนี้ได้

ส่วนสถานที่เสี่ยงและกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดวงกว้าง

1.การดื่มสุรา รับประทานอาหารร่วมกัน เนื่องจากไม่ได้สวมหน้ากาก โดยเฉพาะในสถานที่ปิด ระบายอากาศไม่ดี หรือรับประทานอาหารร่วมกันในบ้าน

2.การร่วมงานหรือกิจกรรมที่มีผู้คนแออัด มาตรการควบคุมโรครัดกุมไม่เพียงพอ และ

3.ขนส่งสาธารณะ รถโดยสารที่แออัด

คลิปอีจันแนะนำ
กล้วยหอมอยู่คันไหนนะ?