ที่อาคารรัฐสภา ห้องแถลงข่าวกระทรวงสาธารณสุข ห้องหมายเลข 203 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้เกี่ยวข้อ งได้แถลงข่าวชี้แจงต่อสื่อมวลชน กรณี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจรายบุคคล ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี และรัฐมนว่าการกระทรวงกลาโหม กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และในการอภิปรายดังกล่าวนั้น ได้มีการพาดพิงถึงหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข
นพ.เกียรติภูมิ ได้กล่าวในการแถลงข่าวว่า ในประเด็นที่มีการอภิปรายนั้น เรื่องของวัคซีน เป็นที่สนใจของสังคม เพราะเราต่อสู้มาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีสองเฟสก็ตาม และในระลอก 2 การควบคุมจะช้ากว่ารอบแรกก็ตาม แต่ก็สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย สิ่งที่เราจะดำเนินการต่อไป คือ การใช้วัคซีน ในช่วงแรกของการระบาด บริษัทยาต่าง ๆ ยังไม่มีวัคซีนมาใช้ สำหรับการใช้วัคซีนนั้น จะต้องเป็นการป้องกันระดับประเทศ การฉีดวัคซีนประเทศแรกๆนั้น เริ่มที่ 2000 โดส ส่วนไทยนั้น ได้มีการจองวัคซีน 63 ล้านโดส ถือว่าเป็นปริมาณวัคซีนมากที่สุด เพราะเราจะสร้างภูมิคุ้มกันระดับประเทศ และเตรียมการดำเนินการฉีด การฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 ครั้ง เราได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมในการจัดหาวัคซีน และวางแผนไว้เป็นแนวมาง 3 เฟส
ด้าน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ในเรื่องการจัดการวัคซีน กรรมการจัดหาวัคซีน ได้สั่งการให้มีการจัดหาอย่างเร่งด่วน ได้เริ่มมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ตั้งแต่ได้รับการสนับสนุน เราได้แสวงหาวัคซีนในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้เราได้เท่าทันว่าวัคซีนแบบไหนที่มีความก้าวหน้าในการที่จะใช้ในมนุษย์ ซึ่งเราจับตาดูพัฒนาการของวัคซีนต่าง ๆ จากต่างประเทศ จนมี 2 ตัวที่น่าจะมีความเป็นไปได้ในการนำมาใช้ภายในประเทศ
สิ่งที่เราตั้งเป้าสำคัญคือการได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี วิธีการในการผลิตวัควีน เพื่อนำมาใช้ในการรับการแพร่ระบาดต่อไป ทั้งนี้ บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ได้ทบทวนความสามารถของบริษัทในประเทศไทย ซึ่งมีบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ มีขีดความสามารถ และเรามองว่า การซื้อวัคซีนกับบริษัทอื่น ๆ ก็จะเป็นแค่การซื้อหากันอย่างเดียว แต่ถ้าซื้อกับ แอสตร้าเซนเนก้า จะได้ประโยชน์ในเรื่องของการผลิตวัคซีนด้วย
สิ่งที่มีการอภิปรายในสภา ถ้าได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ก็จะมีความผิดพลาดไป เพราะการจองวัควีน กับ แอสตร้าเซนเนก้า นั้น มีที่มาที่ไป
