(4 พ.ค.64) ผู้ช่วย สส.เขตสายไหม ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ผู้ป่วยโควิด เขตสายไหม แขวงคลองถนน กทม. ซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด ที่ติดมาจากคลัสเตอร์ทองหล่อ
ไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายนี้ คือ
เมื่อต้นเดือน เม.ย.64 เธอได้ไปใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิดที่มีคลัสเตอร์ทองหล่อมา จึงไปตรวจหาเชื้อโควิดที่โรงพยาบาล ปรากฏว่าไม่ติดเชื้อ
-12 เม.ย.64 เธอมีอาการป่วยน้ำมูกไหลและไอ ปวดเบ้าตา จึงกักตัวอยู่บ้าน
-16 เม.ย.64 เธอเริ่มมีอาการหนักขึ้นจึงตัดสินใจขับรถไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านนนทบุรีอีกครั้ง แล้วกลับมาดูอาการกักตัวเองอยู่ที่บ้าน ช่วงระหว่างที่ตนดูแลตัวเองอยู่บ้าน มีอาการไอและมีไข้แต่ก็พอดูแลตัวเองได้อยู่
-18 เม.ย.64 ทางโรงพยาบาลได้ติดต่อกลับมาบอกผลตรวจว่า เธอติดเชื้อโควิด ทางโรงพยาบาลจึงถามว่ามีประกันอะไรไหม เธอจึงตอบไปว่า มีบัตรทอง 30 บาท โรงพยาบาลก็บอกว่าเดี๋ยวจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง หลังจากวันนั้น เธอก็ได้แต่รอ ทางโรงพยาบาลก็ไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย
-19 เม.ย.64 เธอให้เพื่อนซื้อยาวิตามินรวม วิตามินบี 5 วิตามินซีมาให้กิน กินเช้าก่อนนอน ก็ช่วยลดไข้ได้ส่วนหนึ่ง แต่ยังแน่นหน้าอกอยู่
-20-24 เม.ย.64 เธอเริ่มมีอาการหนักขึ้น แน่นหน้าอกหายใจไม่ค่อยสะดวก ไอ ปวดหัว ปวดเบ้าตา หนาวไปถึงกระดูก ขณะนั้นอาการหนักมาก เธอตัดสินใจโทรศัพท์ไปหมายเลขต่างๆที่รัฐบาลแจ้งไว้เพื่อขอความการช่วยเหลือ แต่ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือสักหน่วยงาน จนกระทั่งมีถุงยังชีพจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น
เธอไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาแม่ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ บอกว่าตนเองป่วยโควิด แม่จึงแนะนำวิธีรักษาแบบพื้นบ้านโดยการให้ต้มน้ำเปล่าผสมกับน้ำส้มสายชูแล้วสูดดมควันจากหม้อต้มเพื่อจะได้หายใจสะดวกขึ้น และนำหอมแดงมาต้มใส่น้ำเพื่อกินแทนน้ำเปล่า และนำข่าตะไคร้ใบมะกรูดมาต้มใส่น้ำกินเช้า-กลางวัน-เย็น ทุกวัน
-25 เม.ย.64 อาการเริ่มดีขึ้นไม่มีไขเริ่มหายใจได้ปกติ เธอจึงรักษาด้วยวิธีนี้มาตลอดจนถึงปัจจุบัน เธออยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือ ติดต่อมาถามอาการ พาไปเอ็กซเรย์ปอดว่ายังมีเชื้อหลงเหลืออยู่ไหม ถ้าไม่มีเชื้อแล้ว จะได้นำข้อมูลการรักษานี้เป็นวิทยาทานสำหรับผู้ป่วยท่านอื่นต่อไป
