สถานการณ์โควิด-19 ในตอนนี้ยังคงน่าเป็นห่วง ผู้ป่วยติดเชื้อหลายคนยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล รวมถึงคุณกัส เจ้าของเพจ ผมต้องรอด ด้วย
เพจ ผมต้องรอด ถูกสร้างขื้นเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา โดยเจ้าของเพจชื่อคุณกัส ผู้ป่วยโควิด-19 ที่กำลังเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง และมีแอดมินคือตัวเองรวมถึงคุณแม่ของกัสด้วย
โดยเพจนี้ คุณกัสจะโพสต์เรื่องราวของการรักษาโควิด-19 ในแต่ละวันของตัวเอง ซึ่งจุดประสงค์ของการตั้งเพจนี้
ด้าน แอดมินคุณแม่ เปิดเผยว่า สร้างเพจนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้ทุกคนตระหนักว่าโควิด-19 มันน่ากลัวมาก มันทรมานมากในการรักษา เราไม่อยากให้ทุกคนเป็น และอยากหยุดในการแพร่เชื้อ อยากให้ทุกคนดูแลตัวเอง และต้องการให้กำลังใจให้หมอ และพยาบาล ที่เขาต้องเสี่ยงมาดูแลคนป่วย ตอนนี้ที่โรงพยาบาลเต็มแล้ว คิดได้เลยว่าหมอและพยาบาลจะงานเยอะขนาดไหน เหนื่อยมากขนาดไหน เขาก็กลัวที่จะติดเหมือนกัน ลูกและครอบครัวของพวกเขาจะกังวลมากขนาดไหน แต่เขาก็ทำด้วยใจจริงๆ ต่อไปจะตั้งมูลนิธิเพื่อ หมอและพยาบาลที่ดูแลคนไข้ที่ติดโควิด และช่วยเหลือคนป่วย
คุณกัส รู้ผลว่าตัวเองติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.64 จนถึงวันที่ 17 มิ.ย.64 ก็ครบ 21 วันที่ต่อสู้กับกับโควิด-19 โดยระบุข้อความว่า “ทานยาฆ่าเชื้อ ครบโดสแรก 7 วัน ไม่หาย เชื้อลงปอด เลือดติดเชื้อหนัก ฉีดยาฆ่าเชื้อ เข็มแรก ดูอาการ 3 วัน ยังไม่ดีขึ้น รับยาฆ่าเชื้อชุดใหม่ ต้องกินให้ครบ 10 วัน รับยา Anti Viral ชุดใหม่ 4 วัน รอดูผลเชื้อในเลือด จาก 470- ลดลง เหลือ 420 ค่าที่ควรเป็นในคนปกติ 100 อยากให้กำลังใจเพื่อนๆ ที่กำลังรักษาตัวจากโควิด “เราจะรอดไปด้วยกันครับ” สู้ๆกับโควิด”
วันที่ 18 มิ.ย.64 เพจ ผมต้องรอด ได้โพสต์อัพเดท อาการของคุณกัส ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแอดมินคุณแม่เป็นผู้โพสต์
“วันนี้ลูก มีอาการไอ และเหนื่อยมากผลข้างเคียงมาจากยาตัวใหม่ ปวดแขนมากเวลา ยาเข้าเส้นเลือด ที่ลูกติดมาจากเพื่อนร่วมงานแล้วไม่รู้ นั่งรถไปทำงานด้วยกันแล้วติดมา ลูกไม่ได้ประมาท ป้องกันและระมัดระวังตัวตลอด โควิด มันน่ากลัวมาก ถึงมีวัคซีนแล้วก็ขอให้ทุกคนอย่าวางใจ และอย่าไว้ใจใครๆ ใส่แมสก์ตลอดเวลา”
ในวันเดียวกัน คุณกัสก็โพสต์อีกว่า “กัส ผมต้องรอด ผู้ป่วยโควิด โคม่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่”
ผมจะคอย อัปเดทการรักษาทุกวันนะครับ เพื่อเป็น เคส ตัวอย่าง และเป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนๆ คนไทย ระวังตัวเอง อย่าการ์ดตก โควิดถ้าลงปอด ตายได้ครับ แต่ผม ก็จะสู้ๆ ตามสโลแกน “ข้างนอกสดใส ข้างในช้ำมาก”
อยากขอบคุณทีมพยาบาลทุกคนที่เสี่ยงตายเข้ามารักษา ดูแล อาบน้ำ ป้อนอาหาร ฉีดยา ดูแลอย่างดี ทุกคนทำด้วยใจทุกคน ผมไม่เคยได้รับความรู้สึกว่าเขาจะรังเกียจคนไข้แม้แต่นิดเดียว เขาต้องเสี่ยงชีวิตเขา ที่จะต้องมานอนพะงาบๆ แบบผม เขาไม่มีความกลัวในจิตใจเลย แม้มีแค่แผ่นหน้ากากบางๆ กับเฟสชิวแค่นั้น ที่กั้นเชื้อระหว่างเรา เขาต้องคอยเก็บทิชชู่เสลดทุกวัน นำกระบอกฉี่ไปล้าง เช็ดตัวให้ ตัดผมให้ ทุกอย่างนี้ห่างกันแค่ 10 เซ็น ระหว่างหน้าผู้ป่วย
ลองคิดดูว่าในห้องที่ฟุ้งไปด้วยเชื้อ เขาต้องเสี่ยงชีวิตขนาดไหน ลูกที่บ้าน พ่อแม่ คนแก่ และคนที่เขารัก แค่คิดง่ายๆ ว่า ตอนเรายังไม่ติดแต่รู้ว่าโซนไหนมีโควิด เราก็ไม่อยากจะไปใกล้ๆ แล้ว
อันนี้เขาห่างกับผู้ป่วยแค่ 10 เซ็น กั้นด้วย หน้ากาก N95 1 แผ่น กับเฟสชิวธรรมดาๆ ชุด PPE แบบธรรมดา ที่ไม่ได้มาตรฐานเหมือนของต่างประเทศ
ผมซาบซึ้งใจ พยาบาลและทีมแพทย์ที่นี่มาก ทุกวันผมสั่งอาหารจากที่ร้านผมมาเลี้ยงพยาบาลทุกวัน ให้ญาติๆ เพื่อนๆ เอาของมาฝากทุกวัน เพื่อเป็นกำลังใจเล็กๆ น้อยๆ ให้ผู้กล้า ผู้เสียสละ
ที่ผมทำเพจนี้ขึ้นมา ไม่ได้อยากดัง แต่เจตนารมณ์คืออยากเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ เพื่อ 1.อยากให้ประชาชนป้องกันตัวเองให้มาก เพราะเชื้อสายพันธุ์ใหม่นี้ มันรักษาหายยากมากและลงปอด ผมไม่มีโรคประจำตัวใดๆ เลย ตรวจสุขภาพทุกปีที่ต่างประเทศ ร่างกายสมบูรณ์ทุกอย่าง เลยอยากให้เป็นอุทาหรณ์ ให้ดูเป็นเคสตัวอย่างว่า เป็นโควิด อาการเข้าโคม่า มีโอกาสเสียชีวิตได้ ถ้าผมต้องตายไปอย่างน้อยๆ ก็ได้มีเคสตัวอย่างการรักษา เป็นแนวทางให้หมอ ตอนนี้ผมติดเชื้อในเลือดหนักมาก ต้อง X-Ray ดูผลปอดรายวัน และดูผลการเจาะเลือดดูค่าการอับเสบของเลือดรายวัน ระยะการรักษา คาดว่า 2 เดือน ผมจะสู้ทุกลมหายใจ เพื่อที่ได้ออกไปเปิดมูลนิธิพยาบาลผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อได้สนับสนุนชีวิตพวกเขาให้ดีขึ้น เขาทำงานวันละ 12 ชม. บางวัน16 ชม. อาทิตย์หนึ่งหยุดแค่ 1 วัน เดือนๆ หนึ่งแทบจะไม่ได้นอน
กองทุนผมจากเงินส่วนตัวจะทำไปซื้อชุด PPE บริจาค และเป็นกองทุนสนับสนุน ทีมพยาบาล รพ. ที่ผมรักษาตัวอยู่ทั้งแผนก ผมขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อ รพ. ที่ผมรักษาตัวอยู่เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของพยาบาล เพราะเขาทำงานก็เหนื่อยมากๆ แล้ว และนี่ คือเจตนารมณ์ ที่ผม “กัส ผมต้องรอด” ทำเพจนี้ขึ้นมาครับ
อยากให้เพื่อนๆช่วยแชร์ เพื่อเป็น เคส อุทาหรณ์ด้วยครับ และต้องขอบคุณรัฐบาลที่ได้มีวัคซีนให้กลับประชาชนเสียที ผมถือ สัญชาติไทย และ ออสเตรเลีย ถ้าผมเลือกกลับประเทศออสเตรเลียเพื่อบินไปฉีดวัคชีน ประชาชนที่โน่นได้รับการเข้าถึงวัคซีนมานานมาแล้ว แต่ผมรักเมืองไทยและเชื่อมั่นว่า ประเทศไทย คนไทยทุกคน ต้องได้รับการฉีดวัคซีนทุกอย่อมหญ้า ไม่ว่าคุณเป็นใครก็ตาม อยากฝากไว้กับทุกหน่วยงาน ให้วัคซีนชาวบ้านด้วย ผมไม่อยากให้ทุกคนต้องมาเป็นหนักแบบผม
เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 มิ.ย.64) แอดมินของเพจ ผมต้องรอด ได้อัปเดท อาการของคุณกัสอีกครั้ง ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา คุณกัสมีภาวะปอดอักเสบ จากผลเอกซเรย์ปอด พบฝ้าขาวกระจายอยู่เต็มปอด มีอาการหอบเหนื่อย อ่อนเพลียและหายใจเองไม่ได้ เนื่องจากภาวะค่าออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ มีเสมหะในลำคอรวมทั้งมีอาการไอหนักมาก ซึ่งเป็นการตอบสนองของร่างกาย เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองในทางเดินหายใจ
แต่ทุกวินาทีที่คุณกัสรักษาตัวอยู่นั้น ไม่เคยแม้แต่นิดเลยที่จะกลัวความตาย เพราะคุณกัสเป็นลูกของพระเยซู จึงไม่มีความกลัวในจิตใจ เชื่อและศรัทธาในพระเจ้าเสมอ “ผมต้องรอด” In Jesus name, Amen
ด้านคุณกัส ก็โพสต์ขอขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่พี่ๆเพื่อนๆส่งมาให้ และอาจจะไม่ได้ตอบไลน์ เพราะว่าการรักษาปอดคือการนอนคว่ำ/นอนตะแคง ซึ่งตนก็ไม่มีแรงขยับตัวอยู่แล้ว ยังดีที่ญาติเอาไม้เซลฟี่วางไว้ให้ทำให้ผมได้ขยับนิ้ว อ่านข้อความที่เพื่อนๆ ส่งมาให้ ส่วน Inbox จะมีมีคุณแม่และน้องคอยตอบแทนครับ เพราะยาต้านไวรัสมันทำให้เราเบลอ จิตมันจะลอยๆ ไม่มีสมาธิ แล้วผมจะเขียนเรื่องราวส่งให้พี่แอดมินอัปเดทอาการรักษาโควิดสายพันธุ์ใหม่ เพื่อเป็นวิทยาทานในการรักษา ให้ทางบ้านได้ติดตามกันไปทุกวัน ตนเชื่อว่าญาติผู้ป่วยหลายๆ ท่านไม่มีโอกาสได้รับรู้ หรือสัมผัสอาการ โควิดระยะลงปอดมันเป็นยังไง
รุ่นพี่ที่ผมรักเหมือนพี่ชาย เขาโคม่าตั้งแต่วันแรกเลย ทุกๆ วันที่ผมนอนรอผลโควิด แต่ผมเริ่มมีอาการแล้วว่าติด ผมไปนอนรอในห้อง ICU แรงดันลบแล้ว ในทุกๆวัน ที่ต้องเฝ้ารอ… ผมทุกข์ใจมากๆ เพราะเขาขาดการติดต่อไปเลย 14 วัน เขาต้องสอดท่อ ใส่เครื่องช่วยหายใจตั้งแต่วันแรกเลย…จะเป็นตายร้ายดียังไง เราไม่มีข้อมูลเลย ลองคิดดู…ผมติดต่อไลน์เขาไม่ได้เลย 14 วัน เขานอนเป็นผักไปเลย (ทราบตอนหลัง) แล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่ว่าเขารอดมาได้ยังไง…
ตอนนี้ผมไม่มีแรง พิมพ์ต่อ…แล้ว…To be continued…
และขอให้เพื่อนๆ ที่กำลังสู้กับโควิดอยู่ ต้องรอดด้วยกันไปกับผม “เราต้องรอด” ผมจะรอวันที่พวกคุณหาย แล้วออกจาก รพ. ไปด้วยกันครับ
ล่าสุด วันนี้ (22 มิ.ย.64) คุณกัสได้โพสต์ภาพรอยยิ้มพร้อมกับระบุ ข่าวดี นอนหลับได้ เพิ่งตื่น ปกติต้องตื่นที่ ตี 5:30 พยาบาลต้องให้ยา ตามรอบ และปลุกเจาะเลือด ทุกวัน เดี๋ยวมาเล่าต่อเพราะต้องรีบไปกินอาหารเช้าและ กินยา
บ่ายๆ ว่างๆ จะมาอัปเดทข่าวดี
ชักจะอยากรู้แล้วสิคะ ว่าข่าวดีที่คุณกัสเล่าจะเป็นเรื่องอะไร
อย่างไรก็ตาม อีจันขอให้คุณกัส หายจากโควิดและกลัวมาแข็งแรงโดยเร็วนะคะ