หมอประสิทธิ์ เผยความจริง 5 ข้อ กับโควิดระลอกใหม่ ที่น่าห่วงกว่าเดิม!

โควิดระลอกนี้ แพร่เร็ว ไม่คิดว่าติด ก็ติดได้! หมอประสิทธิ์ เผยความจริง 5 ข้อ กับโควิดระลอกใหม่ ที่น่าห่วงกว่าเดิม!

ถอดบทเรียน จากการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ ที่น่าเป็นห่วงมากกว่าเดิม

จันขอแกะบทสัมภาษณ์ของ นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ในรายการโหนกระแสวันที่ 8 เม.ย. 64 ประเด็นโควิดระบาดระลอกใหม่

โดยมี 5 ข้อสำคัญที่จันอยากจะเอามา ฝากให้ทุกคนได้รู้ชัดๆคือ

1.โควิดรอบนี้ ติดง่าย ไม่มีอาการ

“ตอนอู่ฮั่น เริ่มไปทางตะวันตก ผมเคยเล่าให้ฟังว่าทางตะวันตกเริ่มตั้งข้อสังเกตว่าทำไมมันแพร่เร็วกว่าที่จีน แล้วเริ่มมีการค้นพบสายพันธุ์ จริงๆ สายพันธุ์นี้พบมาตั้งแต่เดือน มี.ค.- เม.ย ปีที่แล้ว แต่พบเป็นทางการ ก.ย. ปีที่แล้ว ตอน ก.ย.ที่เจอ ไม่กี่เดือนต่อมา พ.ย. ขึ้นมาเป็น 2 ใน 3 ขณะนี้เป็น 4 ใน 5 เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์แล้วของสายพันธุ์ในสหราชอาณาจักร มันมีการพัฒนาในตำแหน่งรหัสพันธุกรรมของไวรัสตัวนี้ ที่ทำให้แพร่กระจายได้เร็ว ไม่อยากเรียกว่าเป็นข้อดี B117 สายพันธุ์นี้พบว่าคนติดเชื้อไม่ได้รุนแรงมากขึ้น ไม่ได้รุนแรงไปกว่าสายพันธุ์เดิม แต่แน่นอน เมื่อจำนวนติดเยอะมากขึ้น ก็จะมีคนจำนวนหนึ่งที่รุนแรง สิ่งที่เกิดขึ้นคือถ้าจำนวนคนรุนแรงเยอะจนหออภิบาลผู้ป่วยหนักไม่พอ อัตราการตายจะไปเร็ว ตอนนี้ที่ทุกประเทศห่วงคืออย่าให้ระบาดเยอะ ถ้าระบาดหนักเกินศักยภาพ รพ. ที่จะดูแลคนไข้หนักๆ จะมีการตายเยอะ เพราะรักษาไม่ไหว ทรัพยาการไม่พอ แต่ตอนนี้สายพันธุ์ที่เราห่วงมากกว่านั้นมีอีก 2 สายพันธุ์ซึ่งภาวนาอยู่ว่าอย่าเข้ามาและระวังเต็มที่ คือสายพันธุ์แอฟริกาใต้ จริงๆ มันมีมาระยะหนึ่งแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาปรากฏตอนนี้ แต่สายพันธุ์นี้ ต้องบอกว่าบริษัทวัคซีนอย่างน้อย 3 บริษัท ไม่ว่าจะแอสตร้าเซนเนก้า, ไฟเซอร์, โมเดอร์น่า มีการพูดว่าสายพันธุ์นี้ประสิทธิภาพวัคซีนอาจจะด้อยลง”

2.วัคซีนไม่ได้ป้องกัน แต่ช่วยลดความรุนแรง

“คุณภาพวัคซีนจะด้อยลง เพราะไม่ได้เยอะพอที่เราจะไปศึกษา อีกอย่างปกติแล้วโควิดเราไม่ได้ไปถอดรหัสพันธุกรรมทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นค่าใช้จ่ายบานเลย เป็นสายพันธุ์ใดก็แล้วแต่ถ้าทุกคนรักษาตัวเอง รักษาระยะห่างมันจัดการได้หมด การกลายพันธุ์ของไวรัสเราไม่กลัว ถ้าเราใส่หน้ากาก รักษาระยะห่าง มันก็เข้าตัวเราไม่ได้ แต่พอชะล่าใจ ติดเข้ามาและแพร่เร็ว สัดส่วนคนที่หนักจะเพิ่มไปตามส่วน เมื่อไหร่ทะลุศักยภาพรพ. เรื่้องใหญ่แล้ว แล้วอีกสายพันธุ์คือบราซิล ผมเอากราฟมาให้ดูเมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา ทั่วโลกเริ่มกลับมาเข้าสภาพคล้ายเดิม คือวันหนึ่ง 6 แสนกว่าราย สองวันหนึ่งล้าน เราเริ่มกลับมาคล้ายของเดิม บราซิลเป็นหนึ่งในประเทศที่สถานการณ์แย่มาก 88 เปอร์เซ็นต์ที่ระบาดในบราซิล คือสายพันธุ์ของบราซิลเอง ตอนนี้เราห่วง ตัวย่อคือ P1 เป็นสายพันธุ์ที่เราไม่รู้จักธรรมชาติของมันดีนัก เพียงแต่มีคนคาดการณ์ว่ามันอาจจะรุนแรงขึ้น เรายังไม่รู้เพราะมันยังมีอยู่เฉพาะในบราซิล แต่ต้องพูดให้ฟังนะครับ ว่าเดือนที่แล้วไปปรากฏในสหรัฐอเมริกาแล้ว และสหราชอาณาจักรแล้ว สายพันธุ์ P1 นี่แหละ ซึ่งต้องไม่ให้เข้ามาโดยเด็ดขาด ต้องป้องกัน”

3.อย่าสนใจสายพันธุ์ไม่มีสาระ

“โดยรวมแล้วสายพันธุ์สหราชอาณาจักร วัคซีนที่ผลิตออกมาตอนนี้เอาอยู่ เพราะสายพันธุ์นี้มันมาเรารู้ตั้งแต่พัฒนาวัคซีน แต่สายพันธุ์อันใหม่อย่างที่เรียน ยังไม่รู้และอาจไม่อยู่ สองวัคซีนที่มาเมืองไทย ซิโนแวคก็ดี แอสตร้าเซนเนก้าก็ดี ยืนยันว่ายังจัดการสายพันธุ์นี้ ตัวเลขที่ผมให้ไป อยากให้สังคมมองนิดหนึ่ง ตรวจ 20 คน 70 เปอร์เซ็นต์เจอสายพันธุ์นี้ แต่เราไม่ได้ตรวจอีกเป็นร้อย ไม่ใช่ว่าสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์หลักนะ นี่แค่ 20 คนที่เราเอามาตรวจและเจอแบบนั้น ในความเป็นจริงไม่ต้องประเมิน ให้รู้ว่ามาแล้ว ให้รู้ว่าสายพันธุ์ใดก็แล้วแต่ แต่เราป้องกันอยู่ตลอด ตอนนี้ดึงการ์ดขึ้น อย่าไปโฟกัสว่าเราติดสายพันธุ์ที่แปรพันธุ์มาหรือเปล่า ไม่มีสาระเลย ถ้าเรารักษาสิ่งเหล่านี้เราทำได้อยู่แล้ว ที่ฉีดวัคซีน ตอนนี้ในบางประเทศที่ห่วงอยู่แล้ว พอฉีดวัคซีนเสร็จก็คิดว่าจะปลอดภัยเต็มที่ ก็เลยละเลยการใส่หน้ากาก สหรัฐเตือนตั้งแต่ฉีดวัคซีน วัคซีนที่ฉีดตอนนี้ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าท่านจะไม่ติดเชื้อ ตั้งเป้าหมายแค่ว่าถ้าท่านติดเชื้อ ท่านจะไม่รุนแรงและไม่เสียชีวิต โดยหลักคือแบบนั้น ทำไมสหราชอาณาจักรยังต้องมาเตือน ฉีดวัคซีนแล้วให้ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ไม่ใช่เพื่อตัวท่านเองนะ เพราะถ้าท่านติดเชื้อมาท่านไม่มีอาการ แต่ท่านแพร่เชื้อได้ ขอให้มองด้านนี้แล้วจะได้เข้าใจ ประกอบกับทุกวัคซีนต้องเข้าระยะ 4 ติดตามดู หลังศึกษาติดตามคนเป็นหมื่นๆ คน ในประเทศหนึ่งคน เป็นแสนเป็นล้าน เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า มันป้องกันเชื้อได้จริงมั้ย มันครอบคลุมได้มั้ย สิ่งเหล่านี้จะตอบโจทย์หลังฉีดวัคซีนไประยะเวลาหนึ่ง และไปเก็บข้อมูลตามมา”

4.รอบนี้ติดแล้ว ร่างกายจะรักษาเอง

“ถ้าวัคซีนเมืองไทยเรามีเยอะพอ ฉีดไม่ว่า แต่ถ้ากลับกัน เป็นผม หนึ่งปีที่ผ่านมา เราใส่หน้ากากป้องกันได้ดี ทำไมเราไม่ฉีดให้คนที่เสี่ยงเสียชีวิต พวกนั้นน่าฉีดกว่าตั้งเยอะ โควิด-19 ถ้าท่านเป็นและท่านแข็งแรงดี ผมยืนยันเลย ร่างกายท่านจะสร้างภูมิคุ้มก้น และไวรัสถูกกำจัด ถ้าช่วงเวลานั้นท่านไม่กระจายให้คนอื่น ไม่มีประเด็น แค่นั้นเอง ถ้าท่านยังใส่หน้ากาก ท่านดำเนินธุรกิจได้ เพียงแต่พอมันการ์ดตก แล้วไปเจอสายพันธุ์กระจายเร็ว มันเลยเกิดเรื่อง”

5.คนที่ติด ไม่มีใครคิดว่าจะติด หมั่นใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ

ถ้าเรารักษาสิ่งเหล่านี้เราทำได้อยู่แล้ว ที่ฉีดวัคซีน ตอนนี้ในบางประเทศที่ห่วงอยู่แล้ว พอฉีดวัคซีนเสร็จก็คิดว่าจะปลอดภัยเต็มที่ ก็เลยละเลยการใส่หน้ากาก สหรัฐเตือนตั้งแต่ฉีดวัคซีน วัคซีนที่ฉีดตอนนี้ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าท่านจะไม่ติดเชื้อ ตั้งเป้าหมายแค่ว่าถ้าท่านติดเชื้อ ท่านจะไม่รุนแรงและไม่เสียชีวิต โดยหลักคือแบบนั้น ทำไมสหราชอาณาจักรยังต้องมาเตือน ฉีดวัคซีนแล้วให้ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ไม่ใช่เพื่อตัวท่านเองนะ เพราะถ้าท่านติดเชื้อมาท่านไม่มีอาการ แต่ท่านแพร่เชื้อได้ ขอให้มองด้านนี้แล้วจะได้เข้าใจ ประกอบกับทุกวัคซีนต้องเข้าระยะ 4 ติดตามดู หลังศึกษาติดตามคนเป็นหมื่นๆ คน ในประเทศหนึ่งคนเป็นแสนเป็นล้าน เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า มันป้องกันเชื้อได้จริงมั๊ย มันครอบคลุมได้มั๊ย สิ่งเหล่านี้จะตอบโจทย์หลังฉีดวัคซีนไประยะเวลาหนึ่ง และไปเก็บข้อมูลตามมา”

เมื่อเราไม่รู้ว่าเชื้อโรคอยู่ที่ไหน เราเสี่ยงหรือไม่ สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือ การป้องกันตัวเราเอง สู้ๆนะคะ เราจะผ่านไปด้วยกัน