หมอมนูญ ชี้ ไทยควรลดจำนวนผู้ป่วยหนัก-ตาย มากกว่าลดผู้ติดเชื้อ โควิด

หมอมนูญ แนะ ประเทศไทย ควรมุ่งเป้าลดจำนวนผู้ป่วยหนัก-เสียชีวิตหลังการติดเชื้อ โควิด มากกว่าการลดจำนวนผู้ติดเชื้อ

22 ก.พ. 65 หมอมนูญ หรือ นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงสถานการ์ โควิด โอมิครอน โดยระบุว่า

ประเทศไทย ควรเปลี่ยนเป้าหมายจากการลดจำนวนผู้ติดเชื้อ โควิด เป็นการลดจำนวนผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตหลังการติดเชื้อ

การป้องกันการติดเชื้อทำได้ยาก เพราะเชื้อสายพันธุ์ โอมิครอน BA.1 และ BA.2 ติดกันง่ายมาก แพร่ทางอากาศ อย่างเก่งทำได้แค่ชะลอเวลาติดเชื้อออกไปสักพัก เพื่อใช้เวลานี้รีบฉีดวัคซีนให้กับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว และฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับคนที่ได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้ว ซึ่งวัคซีน ช่วยลดความรุนแรง ป่วยหนักและเสียชีวิตได้มากกว่าร้อยละ 90

นพ.มนูญ ระบุด้วยว่า ในขณะนี้ประเทศไทยมีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงทั้ง แอสตร้าเซเนก้า และ ไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา เพียงพอสำหรับคนในประเทศทุกคน แต่มีคนจำนวนมากยังกลัวผลข้างเคียงของวัคซีน และปฏิเสธการฉีดวัคซีน

รัฐบาลต้องสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ อย่างน้อยร้อยละ 90 ของกลุ่มคนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง 7 โรค และหญิงตั้งครรภ์ ให้ได้รับวัคซีน 2 เข็ม และอย่างน้อยร้อยละ 60 ของกลุ่มเสี่ยงนี้ได้รับการฉีดเข็มกระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 วัคซีนเป็นการลงทุนที่ได้ผล และคุ้มค่าที่สุดในการลดการป่วยหนักและเสียชีวิตจาก โควิด

สำหรับคนกลุ่มเสี่ยงทึ่ติดเชื้อ โควิด และยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือยังฉีดไม่ครบ กลุ่มนี้ควรจะได้รับยาต้านไวรัสชนิดกิน Paxlovid ไม่ใช่ยาฟาวิพิราเวียร์ รีบให้ทันทีภายใน 5 วันที่เริ่มมีอาการ จะสามารถลดการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ร้อยละ 90

แต่ปัญหาคือยานี้ยังไม่เข้าประเทศไทย ต้องรออย่างน้อยอีก 2-3 เดือนข้างหน้า กว่าบริษัทยาจะผลิตยาได้มากเพียงพอสำหรับความต้องการของทุกประเทศ

คลิปแนะนำอีจัน
จากทางเลือก…สู่ทางรอด #อเดลล่า