ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับสถานการณ์ โควิด โดยระบุว่า โควิด 19 นักเรียนจะเป็นผู้ขยายและกระจายโรค การระบาดของโรคมากขึ้น เช่นเดียวกันกับโรคทางเดินหายใจอื่น เช่น ไข้หวัดใหญ่ การระบาดของโรคจะพบสูงมากในช่วงเปิดเทอมหรือฤดูฝน เด็กนักเรียนจะรับเชื้อและติดต่อกันง่าย เป็นเช่นนั้นทุกปีของโรคทางเดินหายใจ
โควิด 19 ก็เช่นเดียวกันเมื่อมีการเปิดเทอม ทำให้การกระจายของโรคเพิ่มขึ้น แม้ความรุนแรงของโรคในเด็กนักเรียนและวัยรุ่นจะมีน้อยมาก แต่จะติดต่อกันเองและนำเชื้อกลับบ้าน ทำให้เกิดการติดต่อทั้งครอบครัว ซึ่งจะโยงไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุ อัตราการเสียชีวิตในเด็กนักเรียนที่แข็งแรงดี โดยเฉพาะที่อายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป จะมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 1 ในหมื่น การเสียชีวิตหรือรุนแรงในเด็ก ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคเรื้อรังหรือกลุ่มเสี่ยง ในเด็กกลุ่มที่จะเป็นอันตรายส่วนใหญ่ จะอายุน้อยกว่า 2 ปี
การเรียนการศึกษามีความสำคัญอย่างยิ่ง ชีวิตต้องเดินหน้า การไปโรงเรียนของเด็กมีความสำคัญต่อระบบการศึกษาของประเทศ และยังช่วยเรื่องโภชนาการของเด็กต่างจังหวัด มาตรการในการป้องกันและลดการแพร่กระจายของเชื้อ มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะในโรงเรียน เช่น สุขอนามัย การล้างมืออยู่เป็นประจำและถูกวิธี ลดการรับประทานอาหารร่วมกัน ใส่หน้ากากอนามัย การกำหนดระยะห่างในช่วงที่มีการระบาดมาก ประเทศสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการศึกษามาก ตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน แทบจะไม่มีการปิดเรียนเลย ใครป่วยก็ควรอยู่บ้าน เมื่อหายดีก็กลับมาเรียน ทุกคนเคร่งครัดระเบียบวินัย ทุกคนต้องยอมรับความจริง และสนับสนุนการศึกษาให้ได้เดินหน้าต่อไป ร่วมใจกันปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด และไม่ควรปิดโรงเรียนโดยไม่จำเป็น ควรมุ่งเน้นมาตรการ ป้องกันโรคในโรงเรียนมากกว่า