หมอ อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ โพสต์ ขอลาออกจากทีม ควบคุมโรค จ.ตาก

สุดทน? หมอ อายุรแพทย์โรคติดเชื้อ โพสต์ ขอลาออกจากทีม ควบคุมโรค จ.ตาก ออกมาเป็นฝ่ายดูแลคนไข้เพียงอย่างเดียว

วานนี้ (18 ก.ค. 64) มีบุคลากรการแพทย์ท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นอายุรแพทย์โรคติดเชื้อ ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ใน อ.แม่สอด จ.ตาก โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

“ ตอนนี้มีคนลักลอบข้ามแดนมาจำนวนมาก และผลตรวจโควิดบวก 100% มีใส่ท่อช่วยหายใจจำนวนหนึ่ง ครึ่งหนึ่งน้ำหนักเกิน 100 Kg ทำให้เสี่ยงสูง ขอให้ทางเจ้าของโรงแรมบ้านเช่าระมัดระวังคนกลุ่มนี้ให้มาก มักมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดอื่น ถ้าพบโปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง เพื่อนำมาตรวจหาเชื้อโควิดค่ะ”

ต่อมาวันนี้ (19 ก.ค. 64) บุคลากรท่านดังกล่าวโพสต์ว่า แม่สอดวันนี้บวกรายใหม่ 257 คนเด้อพี่น้อง (ไม่ได้ล้อเล่น) อันนี้คือมีผลยืนยัน PCR แต่ยังมีที่มีอาการมากมายแต่เราไม่ตรวจถือเป็นเขียวทิพย์ อยู่ข้างนอก 111 คน ที่เหลือล็อกไว้ภายใน….

ว่าจะชินละนะ แต่วันนี้เยอะเกิน..ดูแลตัวเองกันให้ดีนะคะ เป็นห่วงทุก ๆ คน ยอดมาเยอะพร้อมกับการตัดสินใจลาออกจากทีมควบคุมโรคของ หมอเบียร์ ขอมาเป็นฝ่ายดูแลคนไข้เพียงอย่างเดียวค่ะ ..ใครว่าเอาอยู่ก็มาทำต่อนะคะหน้าที่ฉันคือรักษาโรค หน้าที่คุณคือควบคุมโรค

ล่าสุด บุคลากรท่านดังกล่าว โพสต์ชี้แจงว่า เบียร์ขอเล่าให้ฟังแบบนี้ค่ะ เบียร์เป็นอายุรแพทย์โรคติดเชื้อ หน้าที่หลักของเบียร์คือ รักษาคนไข้โรคติดเชื้อทั้งหมด และคนไข้อายุรกรรมทั่วไป แต่เบียร์อยู่ชายแดนมา 16 ปี เป็นหมอโรคติดเชื้อมา 8 ปี

เบียร์ทำงานควบคุมโรค กับงานระบาดวิทยาด้วย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นหมอระบาด ..ทำงานหนักมาก เพราะโรคระบาด โรคติดต่อมันเยอะค่ะ ยิ่งโควิดเข้ามาเหมือนเจอศึกทุกด้าน นี่ทำงาน 24 ชม on call มากว่า 600 วันแล้ว วันนี้ไม่มีใครสนใจฟังความคิดเห็นของเรา ไม่ดูหน้างาน เอาแต่สั่งการ …

จึงขอลาออกจากการเป็นหมอระบาดแบบอุปโลกน์ ปลอมๆ ออกมารักษาคนไข้เพียงอย่างเดียวในแนวทางที่เราถนัดค่ะ ซึ่งคนไข้ทั้งหมดเบียร์ดูแลร่วมกับน้อง ๆ หลายคนอยู่แล้ว ไม่ได้ขี้เกียจดูคนไข้นะคะ ..

ส่วนเรื่องควบคุมโรคชายแดน และยุทธศาสตร์ต่าง ๆ จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวต่อไป แค่นั้นเองค่ะ เพราะคิดว่าคงมีคนมีความสามารถมากกว่ามาดูแลแทน ด้วยความเคารพในความคิดเห็นของทุกท่าน หมอเบียร์

อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลชี้ชัดว่า เหตุที่ทำให้ บุคลากรท่านนี้ ลาออกจากทีมควบคุมโรค เป็นเพราะสาเหตุใดกันแน่ แต่ขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน สู้ๆ นะคะ