นายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (9 ก.ย. 64) ได้มีมติอนุมัติจัดซื้อ ยาโมนูลพิราเวียร์ 5 หมื่นคอร์ส หรือ ประมาณ 2 ล้านเม็ด ซึ่งจะนำมาเก็บไว้เพื่อความมั่นคงด้านสาธารณสุข และสำหรับรักษาผู้ที่มีอาการในกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรังเป็นหลัก เพราะยาฟาวิพิราเวียร์ที่ใช้อยู่ในขณะนี้ ยังมีประสิทธิภาพที่ดีอยู่ สำหรับผู้ที่เริ่มติดเชื้อและมีอาการไม่มาก พร้อมกับย้ำว่า การสั่งซื้อยาดังกล่าว รัฐบาลพิจารณาแล้วว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้ไปต้องคุ้มค่า ซึ่งหากสั่งซื้อไปแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการส่งมายังประเทศไทย
ส่วนกรณีที่มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีน “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” ที่คลินิกแห่งหนึ่งใน จ.สระแก้ว นั้น ได้ให้ทางกรมควบคุมโรครายงานข้อมูลขึ้นมา และจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่จากข้อมูลตามสื่อต่างๆถือว่าเป็นเรื่องที่ผิด เพราะวัคซีนที่จะนำเข้าไทยได้ต้องมีการขึ้นทะเบียนกับทางองค์การอาหารและยา หรือ อย. ไม่สามารถนำเข้ามาเองได้ ซึ่งแพทย์ที่ฉีดให้ก็น่าจะมีความผิดด้วย แต่เรื่องนี้เป็นการกระทำผิดนอกระบบราชการ ไม่ควรไปให้ความสำคัญ ส่วนจะเป็นวัคซีนจริง หรือเป็นน้ำเกลือตามที่มีการตั้งข้อสังเกตนั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้
นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามในที่ประชุม ครม. ยังไม่ได้มีการหารือว่าจะมีแนวโน้มปรับเวลาในการเปิด-ปิดผับบาร์ ในวันที่ 15 พ.ย.หรือไม่ ส่วนการหารือในที่ประชุมครม.เกี่ยวกับจัดงานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ 5 ภาคนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขมีเหตุมีผล ไม่ได้เป็นตัวขวางใคร ถ้าสามารถทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่าทำอะไรแล้วไม่เกิดอันตราย ไม่เกิดผลเสียหายตามมา ก็พร้อมเปิดให้จัดได้อยู่แล้ว
คลิปอีจันแนะนำ
บทเรียนรัก10 ล้าน แม้หลอกก็รัก