อนุทิน เผย หลังสงกรานต์ โควิดดีขึ้น เตรียมปรับสู่โรคประจำถิ่น

อนุทิน เผย หลังสงกรานต์ แนวโน้มโควิดเริ่มดีขึ้น เตรียมขับเคลื่อนสู่โรคประจำถิ่น พร้อมกันทั่วประเทศ

วันนี้ (27 เม.ย 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังผ่านเทศกาลสงกรานต์มาแล้ว 10 วัน สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยเริ่มลดลง การใช้เครื่องช่วยหายใจ ห้องไอซียู และยาต้านไวรัส ลดลงเช่นกัน ถือเป็นแนวโน้มที่ดี ซึ่งต้องขอบคุณความร่วมมือจากประชาชนในการปฏิบัติตนตามมาตรการและมารับวัคซีน ทั้งนี้ หากไม่มีการกลายพันธุ์ในช่วงนี้ คาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยอาการรุนแรง และผู้เสียชีวิตน่าจะลดลงในระยะเวลาอันใกล้ สอดคล้องกับความตั้งใจของรัฐบาลที่อยากจะให้มีการผ่อนคลายมาตรการโควิด 19 ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

นายอนุทินกล่าวว่า การปรับโรคโควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่น มีความก้าวหน้าในการดำเนินการต่อเนื่องเห็นได้จากมาตรการต่างๆ ที่เริ่มลดลง เช่น ผู้เดินทางจากต่างประเทศ จากเดิมตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง ลดเหลือครั้งเดียว จนถึงยกเลิกการตรวจ RT-PCR และยกเลิก Test &Go เหลือเพียงตรวจ ATK ครั้งเดียว ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ และหลังดำเนินการไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ หากประเมินแล้วไม่ส่งผลกระทบทำให้มีการติดเชื้อโควิดมากขึ้นก็อาจยกเลิกการตรวจ ATK และ Thailand Pass ต่อไป ส่วนการขับเคลื่อนสู่โรคประจำถิ่น คงดำเนินการพร้อมกันทั่วประเทศในมาตรฐานเดียวกันเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ซึ่งหากประชาชนร่วมมือกันเต็มที่ ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น ทั้งเข็ม 3 และเข็ม 4 เพื่อช่วยลดการป่วยหนักและเสียชีวิต ขณะที่สถานพยาบาล ยา และบุคลากรทางการแพทย์มีความพร้อม เชื่อว่าสามารถทำได้

ทั้งนี้ ได้มีการแยกข้อมูลผู้เสียชีวิตว่าเป็นการเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 หรือเสียชีวิตจากโรคอื่นและติดเชื้อโควิด 19 ร่วมด้วย ซึ่งพบว่าการเสียชีวิตจากโรคโควิดลดลง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีผู้สูงอายุส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งหากจะให้ประเทศไทยมีความปลอดภัยครบวงจร ก็ต้องเปลี่ยนความคิดให้เข้ามารับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครบถ้วน เพื่อให้สามารถผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ได้มากขึ้น และเดินหน้าเข้าสู่ภาวะโรคประจำถิ่นได้เร็วขึ้น

คลิปอีจันแนะนำ
ไขใจ “สกลธี” สละเก้าอี้รองผู้ว่าฯ กทม. มาชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ