29 ก.ค. 64 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดี กรมราชทัณฑ์ เปิดเผยสถานการณ์ โควิดเรือนจำ โดยเป็นข้อมูลเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 64 พบ ติดโควิด รายใหม่ 261 ราย (ในเรือนจำสีแดง 250 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 11 ราย)
รักษาหายเพิ่ม 122 ราย เสียชีวิต 2 ราย รวมมีผู้ต้องขังติดเชื้อที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งหมด 7,209 ราย (กลุ่มสีเขียว 82% สีเหลือง 17.5% และสีแดง 0.5%)
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ พบเรือนจำสีแดงที่มีการแพร่ระบาดเพิ่ม 1 แห่ง คือ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา ส่งผลให้เรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาดลดลงอยู่ที่ 111 แห่ง เรือนจำสีแดงเพิ่มเป็น 23 แห่ง และสิ้นสุดการระบาดแล้ว 8 แห่งคงเดิม มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 37,765 ราย หรือ 83% ของผู้ติดเชื้อสะสม 45,488 ราย และเสียชีวิตสะสม 57 ราย คิดเป็นอัตรา 0.1%
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางสมุทรปราการ และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า เป็นผู้ป่วยสูงอายุ มีโรคประจำตัว และอาการอื่นร่วม ทำให้มีความรุนแรงของโรคมากกว่าปกติ แม้จะได้ให้ยาและดูแลรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐานโดยทีมแพทย์ แต่อาการยังคงไม่ดีขึ้น
นอกจากสถานการณ์ โควิดในเรือนจำ แล้ว นายอายุตม์ ยังกล่าวถึงแนวทางการปล่อยตัวผู้ต้องขังตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2564 ว่า นอกจากผู้ต้องขังจะได้รับการอบรมตามโครงการพระราชทาน โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวแล้ว ผู้ต้องขังทุกรายจะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อและแยกกักตัวเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน รวมทั้งตรวจซ้ำเป็นระยะ เพื่อยืนยันผลก่อนปล่อยตัว
ซึ่งในกรณีที่พบว่าติดเชื้อก่อนปล่อย จะส่งต่อผู้ติดเชื้อที่ได้รับการปล่อยตัวเข้ารักษายังสถานพยาบาลภายนอก หรือตามกระบวนการของกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้ความร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขในแต่ละพื้นที่