จากกรณี ผู้ป่วยโควิด-19 หลบหนีออกจากโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี อ.เมือง จ.จันทบุรี เมื่อเวลาเที่ยงคืนเศษของวันที่ 3 มิ.ย.64
ซึ่งช่วงเย็นวันที่ 3 มิ.ย.64 สามารถติดตามจับกุมเธอกลับมารักษาได้เเล้ว ขณะโดยสารรถตู้ ระยอง – กรุงเทพ หวังเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
ผู้ป่วยหญิงรายนี้ ตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.64 หลังถูกผลักดันกลับประเทศไทย จากการไปทำงานฝั่งกัมพูชา
3 มิ.ย.64 เวลาเที่ยงคืนเศษ
เธอ เปลี่ยนเสื้อผ้า เเละหลบหนีออกจากโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี
โดยมีกล้องวงจรปิดจากโรงพยาสนาม เเละตามเส้นทางตรวจสอบพบว่า
เธอ ออกจากโรงพยาบาลสนาม มุ่งตรงไปยัง บขส.จันทบุรี
เวลา 04.45 น.
ขึ้นรถตู้ บขส. จันทบุรี-ระยอง
เวลาประมาณ 08.00 น.
ลงท่าเรือเทศบาลบ้านเพ
เวลาประมาณ 10.00 น.
นั่งวินมอไซค์จากท่าเรือเทศบาลบ้านเพ จ.ระยอง
เวลา 10 โมงเศษ
ขึ้นรถตู้ BH ระยอง-กรุงเทพฯ ทะเบียน 10-3086 มีผู้โดยสารร่วมด้วย 10 คน
เวลา 12.36 น.
สถานีตำรวจทางหลวง 1 กก.8 บก.ทล. สามารถสกัดรถตู้โดยสาร ทะเบียน 10-3086 ระยอง ไว้ได้บริเวณ ถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ขาเข้า กทม. กม.ที่ 6
เเละควบคุมตัวผู้ป่วยโควิดหลบหนีไว้ได้
เวลา 16.45 น.
สภ.เมืองจันทบุรี ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข รพ.พระปกเกล้า คุมตัวผู้ป่วยโควิดหลบหนี นำส่งสถานที่กักตัว โรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี เพื่อรักษาอาการป่วย
และหลังจากที่ผู้ป่วยหายเป็นปกติดีแล้ว จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย พรบ.ควบคุมโรค ต่อไป
ส่วนผู้โดยสารรถตู้ที่นั่งร่วมกับ ผู้ป่วยโควิดหลบหนี ทาง จ.ระยอง ได้ดำเนินการกักตัว ตรวจหาเชื้อโควิด ผู้โดยสารเเล้ว
สถานการณ์เเบบนี้ สิ่งที่ผู้ป่วยโควิดทุกคนควรทำ เเละตระหนักที่สุดคือ รักษาตัวเองให้หายจากการป่วย ก่อนที่จะออกสู่ที่สาธารณะ ไม่ว่าด้วยกรณีใดๆทั้งสิ้น เพราะการที่ออกสู่สาธารณะ คือการเเพร่เชื้อ เพิ่มปริมาณ ผู้ติดเชื้อที่มากขึ้น ช่วยกันเถอะค่ะ
จันขอภาวนา ให้ผู้ที่ได้ใกล้ชิดผู้ป่วยโควิดหลบหนีคนนี้ ปลอดภัยจากโควิด นะคะ