วันนี้ (25 พ.ย.65) นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก อัพเดตสถานการณ์โควิดจาก WHO ว่า…
องค์การอนามัยโลกได้ออกรายงาน WHO Weekly Epidemiological Update เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า ในรอบเดือนที่ผ่านมา โควิด 19 สายพันธุ์ Omicron ครองสัดส่วนการระบาด 99.9% ทั่วโลก
จากการวิเคราะห์สายพันธุ์ย่อย พบว่า BA.5 ยังคงมีสัดส่วนถึง 72.1%, BA.2 มีการระบาดสูงขึ้นเป็น 9.2% (เดิม 6.4%), BA.4 ลดลงเล็กน้อยเหลือ 3%
สำหรับสายพันธุ์ย่อยที่เป็นที่จับตาเฝ้าระวังกันอยู่นั้น จากการวิเคราะห์สัปดาห์ล่าสุด พบว่า…
BQ.1.x มีการขยายวงระบาดไปถึง 73 ประเทศทั่วโลก และสัดส่วนการตรวจพบเพิ่มขึ้นเป็น 23.1% (เดิมสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 19.1%)
ในขณะที่ XBB นั้น ลามไปแล้ว 47 ประเทศ และตรวจพบเพิ่มขึ้นเป็น 3.3% (เดิม 2%)
เป็นที่ทราบกันดีว่า จากการศึกษาวิจัยทั่วโลก ชี้ให้เห็นว่าทั้ง BQ.1.x และ XBB นั้น ต่างก็มีสมรรถนะที่ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่าสายพันธุ์ต่างๆ ที่เคยระบาดมาก่อนหน้านี้ และยังมีลักษณะการเปลี่ยนแปลงไปใช้กลไกการจับกับเซลล์โดยใช้ตัวรับ TMPRSS2 ที่เหมือนกับสายพันธุ์เดลต้ามากขึ้นกว่า Omicron สายพันธุ์ดั้งเดิมที่ใช้กลไก endocytosis ทำให้สายพันธุ์ย่อยเหล่านี้อาจมีแนวโน้มที่จะลงปอดหรือเกิดป่วยรุนแรงได้ จึงไม่ควรประมาท
ระลอกล่าสุดที่ปะทุขึ้นมาในประเทศต่างๆ ทั่วโลกนั้นก็มีสายพันธุ์ย่อยเหล่านี้อยู่ด้วย แม้ว่า BA.5 จะยังครองการระบาดหลักอยู่ก็ตาม ทั้งนี้เชื่อว่าจะใช้เวลาอีกสักระยะ ที่สายพันธุ์ข้างต้นจะครองสัดส่วนการระบาดหลัก
สำหรับสถานการณ์ไทย ตอนนี้มีติดเชื้อกันรายรอบตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขอให้ระมัดระวังตัว ป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องยังสำคัญนะคะ