โควิดพันธุ์ใหม่ กลับผงาด หลบภูมิคุ้มกัน-ทำตาแดง ไทยเจอแล้วหลายราย

กรมควบคุมโรค เตือน โควิดสายพันธุ์ใหม่ XBB.1.16 ระบาดในอินเดีย หลบภูมิคุ้มกัน ทำเยื่อบุตาอักเสบ ไทยป่วยแล้วหลายราย คาดหลังสงกรานต์เจอป่วยเพิ่มกว่าปีใหม่

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลโดย นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 5 วัน ระหว่างวันที่ 13-17 เม.ย.66 หลายหน่วยงานได้เตรียมความพร้อมการจัดงาน เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์อย่างเต็มรูปแบบ


จึงมั่นใจว่า การท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะมียอดการใช้จ่ายหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ขอให้ประชาชน เตรียมพร้อมต่อการเดินทางท่องเที่ยว ด้วยความระมัดระวัง ทั้งอากาศที่ค่อนข้างร้อน และตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทาง 


“แม้ความกังวลต่อโรคโควิด-19 จะลดลง แต่อย่าชะล่าใจ เพื่อลดความเสี่ยงขอให้ประชาชนระมัดระวัง ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ล้างมือบ่อยๆ และใส่หน้ากากอนามัย เมื่อเข้าไปบริเวณผู้คนหนาแน่น รวมทั้งเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น และสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงขอให้เข้ารับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป LAAB เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน” นายอนุชา กล่าว

ระวัง! โควิดกลับมา สายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.16 ไทยติดแล้ว 6 ราย

ขณะที่ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.66 ที่ผ่านมา นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เผยถึง สถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำสัปดาห์ที่ 15 ปี 2566 ระหว่างวันที่ 9-15 เม.ย.66 ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้วทั้งหมด 435 ราย เฉลี่ยวันละ 62 ราย ซึ่งมีแนวโน้มพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 2.5 เท่าของสัปดาห์ก่อนหน้า 

นอกจากนี้ มีรายงานผู้ป่วยปอดอักเสบ 30 ราย และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 19 ราย เพิ่มขึ้น 58% และ 36% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน 

โดยสัปดาห์ล่าสุด มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น นานเกินกว่า 3 เดือนแล้ว จึงขอย้ำให้กลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นที่สถานพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็ว โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ทั้งนี้ สถานบริการจะปรับการให้บริการรูปแบบวัคซีนโควิด-19 ประจำปีตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังคาดการณ์อีกว่า หลังเทศกาลสงกรานต์จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และจำนวนอาจมากกว่าช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนมีการทำกิจกรรมร่วมกันช่วงสงกรานต์ และการเดินทางที่เพิ่มขึ้น ทำให้ใกล้ชิดผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งภายหลังประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการ จึงไม่ได้มีการตรวจโควิดก่อนเข้าร่วมกิจกรรม และพบการสวมหน้ากากน้อยลง


ส่วนกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์โควิด XBB.1.16 ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก พบเชื้อแล้วใน 22 ประเทศโดยเฉพาะประเทศอินเดีย เชื้อสายพันธุ์ล่าสุดนี้มีความสามารถในการติดต่อสูงกว่าเชื้อสายพันธุ์ในอดีต เป็นที่จับตาขององค์การอนามัยโลก แต่ข้อมูลขณะนี้พบว่าอาการไม่ได้รุนแรงเพิ่ม ทั้งนี้ ฐานข้อมูล GISAID มีรายงานการตรวจพบสายพันธุ์นี้ในประเทศไทย 6 ราย จากที่มีรายงานทั่วโลกเกือบ 

3,000 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 13 เม.ย.66)

ขณะที่ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่า จากรายงานผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลระยะนี้ ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง เนื่องจากได้รับวัคซีนหรือเคยติดเชื้อมาแล้ว ทำให้ยังมีภูมิคุ้มกันป้องกันอาการหนักได้แน่นอน แม้จะไม่ได้ป้องกันติดเชื้อได้ 100% 


อย่างไรก็ตาม แนะนำว่า หลังสงกรานต์ขอให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตัวเองอย่างน้อย 7 วัน หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หากจำเป็นให้สวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ เมื่อเริ่มมีอาการป่วย เช่น มีไข้ เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก ให้ตรวจ ATK หากผลเป็นบวกก็ให้ปรึกษาแพทย์รักษาตามสิทธิและตามระดับอาการ ไม่แนะนำให้ตรวจ ATK ขณะที่ยังไม่มีอาการ


ทั้งนี้ ยืนยันว่าโรงพยาบาล มียา เวชภัณฑ์ เตียงเพียงพอในการรองรับผู้ป่วยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422


“ข้อมูลเบื้องต้นของ ผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนลูกผสม XBB.1.16 ในไทย จำนวน 6 ราย พบว่า เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ อยู่ในวัยทำงาน และอาการป่วยไม่รุนแรง ส่วนอาการสำคัญของ XBB.1.16 ที่ประเทศอินเดียรายงานว่า มีเยื่อบุตาอักเสบ ยังไม่มีรายงานในผู้ป่วยที่พบในไทย 


อย่างไรก็ตาม อาการของโควิด-19 ที่เรารู้ว่า จะมีอาการตัวร้อน เป็นไข้ บางรายก็จะมีอาการระคายเคืองตามใบหน้า หรือดวงตาได้ แต่ขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลว่า XBB.1.16 จะมีความรุนแรงมากกว่าสายพันธุ์อื่น ส่วนการกลายพันธุ์ ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ทางกรมควบคุมโรคก็ติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง จึงขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก และขอให้ไปรับวัคซีนโควิด-19 ถ้าหากฉีดเข็มสุดท้ายนานเกิน 4 เดือน” นพ.โสภณกล่าว


อย่างไรก็ตาม หลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ทั่วประเทศเกิดการเรียนรู้ อีกทั้ง ภาวะโลกร้อนทำให้วัฎจักรเกิดการเปลี่ยนแปลง ไวรัสก็มีการเปลียนแปลง จึงเชื่อว่า จะมีนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงยา เวชภัณฑ์ วัคซีนเข้ามารองรับสถานการณ์อย่างรวดเร็ว

คลิปแนะนำอีจัน
วัยรุ่นท่อดังโชว์เก๋า สุดท้ายจบแบบนี้