นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับ Ms.Andrea Palm รมช.สุขภาพและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา โดยสหรัฐชื่นชมระบบสาธารณสุขไทยเข้มแข็งในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด นอกจากนี้ สหรัฐขอให้ไทยสนับสนุนการฉีดวัคซีนพื้นฐานป้องกันโรคติดต่อให้แก่เด็กตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา เนื่องจากมีเด็กจำนวนมากในเมียนมาไม่ได้รับการฉีดวัคซีนพื้นฐานที่ป้องกันโรคติดต่อ เช่น วัณโรค คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก
อีกทั้ง อย.อนุมัติวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 6 เดือน- 5 ปี และได้มอบหมายให้นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เจรจากับไฟเซอร์เรียบร้อยแล้วในการปรับปรุงสัญญาการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์เดิม มาเป็นสัดส่วนวัคซีนสำหรับเด็กเล็กจำนวน 3 ล้านโดส ซึ่งจะมีการนำเสนอครม.เห็นชอบ เบื้องต้นทางบริษัทไฟเซอร์เห็นชอบในหลักการที่ให้ปรับเปลี่ยนได้ไม่มีปัญหา และคาดว่าน่าจะสามารถนำเข้ามาได้โดยเร็วที่สุดเพื่อฉีดให้กับเด็กเล็กในกลุ่มวัยดังกล่าว
ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค.65 ที่ผ่านมา คณะกรรมการวิชาการ อย. ได้มีมติอนุมัติตามที่ไฟเซอร์ได้ยื่นเรื่องขอขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิด-19 สูตรสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน – 5 ขวบ ฝาสีม่วงแดง เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีรายงานว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 80.3 % ทั้งนี้ สูตรดังกล่าวจะฉีดขนาด 3 ไมโครกรัม ทั้งหมด 3 เข็ม เข็ม 1 เข็ม 2 ห่างกัน 3 สัปดาห์ เข็ม 3 ฉีดห่างจากเข็ม 2 จำนวน 8 สัปดาห์ โดย 1 ขวด มี 10 โดส ทั้งนี้ กรณีวัคซีนไฟเซอร์ที่ฉีดเด็กโตจะฉีดขนาด 10 ไมโครกรัม ส่วนผู้ใหญ่ฉีด 30 ไมโครกรัม
คลิปแนะนำอีจัน
บุญช่วย มาช่วยแล้ว