สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) เผย คณะบริหารภายใต้การนำของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังวางแผนยุติการจ่ายเงินค่าวัคซีนและการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยปรับเปลี่ยนให้บริษัทประกันและผู้ป่วยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ เตรียมจัดการประชุมวางแผนในวันที่ 30 ส.ค. ซึ่งจะรวบรวมตัวแทนจากกลุ่มผู้ผลิตยา ร้านขายยา และหน่วยงานด้านสุขภาพของประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการรักษาโรคโควิด-19 โดยมีการคาดการณ์ว่าผู้เข้าร่วมการประชุมฯ จะหารือเกี่ยวกับการชำระเงินคืนและความคุ้มครอง ประเด็นด้านข้อบังคับ รวมถึงการเข้าถึงวัคซีนและการรักษาของกลุ่มผู้ไม่มีประกัน
อีกทั้งรายงานอ้างอิงโฆษกรายหนึ่งของกระทรวงฯ ระบุว่าการปรับเปลี่ยนการชำระเงินสู่ตลาดการค้าจะใช้เวลาหลายเดือน และการเปลี่ยนแปลงนี้จะสะท้อนความท้าทายหลายประการ อาทิ การทำให้กลุ่มคนที่ไม่มีประกันราว 30 ล้านคนสามารถเข้าถึงวัคซีนและการรักษา
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้จัดซื้อวัคซีนและยารักษาโรคโควิด-19 เพื่อนำมาจัดสรรให้ประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในช่วงโรคระบาดใหญ่ เมื่อวันอังคาร (16 ส.ค.) ที่ผ่านมา อาชิช จาร์ ผู้กำกับดูแลการรับมือโรคโควิด-19 สังกัดคณะบริหารฯ กล่าวว่าคณะบริหารฯ ได้ทำงานตามขั้นตอนเพื่อให้สหรัฐฯ ผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดใหญ่ โดยมีแผนยุติการซื้อวัคซีน การรักษา และการตรวจโรคเร็วที่สุดในฤดูใบไม้ร่วงนี้