หลังจากอีจันได้รับเรื่องราวร้องเรียนขอเตียงของผู้ป่วย นั่นก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า วิกฤติเตียงไม่พอ รองรับผู้ป่วย ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล กลับมาอีกครั้งแล้ว !
ทางด้าน กรมการแพทย์ จึงได้มีแนวทางปรับการรักษาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว โดยให้กลุ่มผู้ป่วยที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ สามารถกักตัวรักษาได้ที่บ้าน ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ พยาบาล ซึ่งจะทำให้โรงพยาบาลสนาม สามารถบริหารจัดการเตียงให้กับผู้ป่วยที่มีอาการหนักได้
พร้อมทั้งได้เผยแพร่แนวทาง Home isolation หรือก็คือ การแยกกักตัวที่บ้าน
เพื่อเป็นแนวทางสำหรับ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่
1. ระหว่างรอ admit โรงพยาบาล
2. แพทย์พิจารณาว่ารักษาที่บ้านได้
3. รักษาที่โรงพยาบาลหรือสถานที่รัฐจัดให้อย่างน้อย 10 วันและจำหน่ายกลับบ้านเพื่อรักษาต่อเนื่องที่บ้านโดยวิธี Home isolation
ผู้ที่เข้าเกณฑ์การทำ Home isolation
1. เป็นผู้ติดเชื้อที่สบายดีหรือ ไม่มีอาการ (asymptomatic cases)
2. มีอายุน้อยกว่า 60 ปี
3. มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
4. อยู่คนเดียว หรือ มีผู้อยู่ร่วมที่พักไม่เกิน 1คน
5. ไม่มีภาวะอ้วน (ภาวะอ้วน หมายถึง ดัชนีมวลกาย > 30 กก./ม.2 หรือ น้าหนักตัว > 90 กก.)
6. ไม่มีโรคร่วม ดังต่อไปนี้ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคไตเรื้อรัง (CKD Stage 3,4 ) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคอื่นๆตามดุลยพินิจของแพทย์
7. ยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเอง
ด้าน นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เผย หากผู้ป่วยยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเองอย่างเคร่งครัดซึ่งในระหว่างนั้นให้ปฏิบัติดังนี้
1.ห้ามผู้ใดมาเยี่ยมบ้านระหว่างแยกกักตัว
2.ไม่เข้าใกล้หรือสัมผัสกับผู้สูงอายุหรือเด็กอย่างเด็ดขาด โดยรักษาระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร
3.แยกห้องพัก ของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่นหากแยกห้องไม่ได้ควรแยกบริเวณที่นอนให้ห่างจากคนอื่นมากที่สุด และควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ควรนอนร่วมกันในห้องปิดที่ใช้เครื่องปรับอากาศ
4.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน ควรรับประทานในห้องของตนเอง หรือหากรับประทานอาหารด้วยกันควรแยกรับประทานของตนเองไม่รับประทานอาหารร่วมสำรับเดียวกันหรือใช้ช้อนกลางร่วมกัน และรักษาระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 2 เมตร
5.สวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ตลอดเวลาที่จะออกมาจากห้องที่พักอาศัย
6.ล้างมือด้วยสบู่หรือทำความสะอาดมือด้วย Alcohol gel ทุกครั้งที่จำเป็นจะต้องสัมผัสกับผู้อื่นหรือหยิบจับของที่จะต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น
7.แยกซักเสื้อผ้า ผ้าขนหนู และเครื่องนอน ด้วยน้ำและสบู่หรือผงซักฟอก ควรใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่น หากเลี่ยงไม่ได้ ให้ใช้คนสุดท้าย ปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำและหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ
สิ่งสำคัญ คือ หมั่นสังเกตอาการตนเอง วัดอุณหภูมิทุกวัน หากมีอาการแย่ลง คือ มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เช่น หอบ เหนื่อย ไข้สูงลอย ไม่สามารถปฏิบัติกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ให้รีบโทรติดต่อโรงพยาบาลที่ท่านรักษาอยู่
และเมื่อต้องเดินทางไปโรงพยาบาลให้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ไม่ใช้รถสาธารณะ พร้อมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เดินทาง
หากมีผู้ร่วมยานพาหนะมาด้วย ให้เปิดหน้าต่างรถเพื่อเพิ่มการระบายอากาศเพื่อความปลอดภัยแก่คนรอบข้าง
แต่อย่างไรก็ตาม Home isolation เป็นเพียงแนวทางของการแยกกักตัวอยู่บ้านของผู้ป่วยโควิดที่ไม่มีอาการ และอายุน้อยกว่า 60 ปีเท่านั้น
แต่ผู้ป่วยที่มีอาการหนัก การรักษาตัวเองอยู่บ้านอาจทำได้ไม่ดีพอ จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล แต่เมื่อโรงพยาบาลเตียงไม่พอรองรับคนไข้ ระหว่างนี้จึงจำเป็นต้องใช้วิธีสังเกตอาการร่วมกับการติดตามอย่างใกล้ชิดของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล
วิกฤตเตียงไม่พอ กลับมาอีกครั้ง หมอ แนะ ป่วยโควิด ติดอยู่บ้าน มีวิธีดูแลตัวเอง ?