กินเร็ว เคี้ยวไม่ละเอียด เสี่ยงสารพัดโรค

รู้ก่อนรีบเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อสุขภาพที่ดี รู้ไหมกินเร็ว กินไว เคี้ยวไม่ละเอียด เสี่ยงอ้วน โรคเบาหวาน และกรดไหลย้อน

ช่วงเวลาที่รีบเร่ง และวิถีชีวิตที่ต้องต่อสู้แข่งขัน ทำให้หลายคนมีเวลาจำกัดจำเขี่ยในการกิน

บางคนใช้เวลากินอาหารเพียง 5 นาที ซึ่งน้อยเกินไป เพราะแทบไม่ได้เคี้ยวอาหารก่อนกลืนเลย

วันนี้ “อีจันแข็งแรง” ขอพูดถึงความสำคัญของการเคี้ยวอาหารในแต่ละมื้อเพื่อประโยชน์ของทุกคนค่ะ

การกินเร็ว หรือการกินอาหารเร็ว หมายถึง การเคี้ยวไม่ละเอียด เคี้ยวไม่กี่ครั้งก็กลืนทันที รีบ ๆ กินให้เสร็จ ทำให้อาหารที่บดเคี้ยวน้อยจะใช้เวลาย่อยนาน ทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ

แล้วต้องใช้เวลาเคี้ยวอาหารกี่ครั้งต่อคำถึงเรียกว่าดี ?

นักโภชนาการบำบัด และผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ ได้ให้ข้อมูลไว้ในบทความของ สสส. ว่า การเคี้ยวอาหารให้ถูกต้องนั้นคือ เคี้ยวประมาณ 10 ครั้งสำหรับอาหารที่นิ่ม เช่น ข้าว หรือ ขนมปัง

ขณะเดียวกันให้เคี้ยวประมาณ 20-30 ครั้งสำหรับเนื้อสัตว์และผัก สำหรับจำนวนครั้งในการเคี้ยวที่เหมาะสม อาจทดลองโดยการเคี้ยวก้านผักคะน้า ฝรั่ง หรือแอปเปิ้ล ประมาณ 10 ครั้ง แล้วใช้ลิ้นดุนสำรวจดูว่าละเอียดเพียงพอหรือไม่ ถ้ายังรู้สึกไม่ละเอียดก็ให้เพิ่มจำนวนครั้งในการเคี้ยวให้มากขึ้น

ส่วนค่าเฉลี่ยของคนทั่วไปมักเคี้ยวอาหาร 15 ครั้งต่อคำ!

ซึ่งไม่เป็นผลดีเท่าไหร่เพราะการเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดจะส่งผลต่อสุขภาพ ทำให้เกิดสารพัดโรค ดังนี้

โรคอ้วน : การกินเร็วเกินไป ทำให้ร่างกายยังไม่ทันรับรู้ว่ามีอาหารเข้ามาแล้ว ทำให้ไม่ทันได้ยับยั้งอาการหิว ส่งผลให้เรากินเกินอิ่ม รับแคลอรี่มากเกินต้องการ

โรคเบาหวาน : การกินเร็วมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น เพราะการกินเร็ว ทำให้กินมากเกินไป ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งของโรคเบาหวาน

โรคกรดไหลย้อน : กินเร็วเกินไป ทำให้กินมากเกินอิ่ม เพิ่มความเสี่ยงโรคกรดไหลย้อน

แล้วถ้าเคี้ยวอาหารให้ละเอียดจะมีข้อดีอย่างไร ?

1.ทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดี เพราะการเคี้ยวช่วยบดอาหารชิ้นใหญ่ๆ ให้เป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้ย่อยง่ายขึ้น และลำไส้จะดูดซึมสารอาหารจากอาหารที่ผ่านเข้ามาได้ง่ายขึ้น

2.ช่วยควบคุมน้ำหนัก ปกติแล้วร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนที่จะเริ่มส่งสัญญาณไปที่สมองว่าอิ่มแล้ว ดังนั้นการที่เราใช้เวลานานในการเคี้ยว จะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มได้เร็วขึ้น และส่งผลให้น้ำหนักคงที่ ไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ในที่สุด

3.ช่วยย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น เมื่ออาหารละเอียดก็จะย่อยได้ง่าย ร่างกายก็ไม่ต้องทำงานหนักจนเกินไป เพราะหากร่างกายต้องทำงานหนักกว่าปกติแล้ว ในระยะยาวอาจทำให้ร่างกายทรุดโทรมเร็วดูแก่ก่อนวัย

4.ลดปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ และท้องผูก การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดทำให้การย่อยอาหารสมบูรณ์ขึ้น ลดสาเหตุของการย่อยอาหารไม่หมดได้ และลดปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อและท้องผูกด้วย

5.ช่วยให้ฟันแข็งแรง การเคี้ยวมากขึ้นจะทำให้น้ำลายออกมากขึ้น และไปทำความสะอาดฟัน ลดการสะสมของคราบหินปูน ช่วยให้ฟันผุน้อยลง รวมทั้งยังเป็นการบริหารเหงือกและฟันให้แข็งแรงอีกด้วย

เห็นไหมว่า แค่เรื่องของการเคี้ยวอาหารก็มีผลสารพัด และการเคี้ยวอาหารให้ละเอียดนั้นดีต่อสุขภาพมากเช่นกัน

เพื่อสุขภาพที่ดี และแข็งแรง จากนี้กินอาหารในแต่ละมื้อเคี้ยวให้ละเอียดนะคะ

อ้างอิงข้อมูล :

https://www.thaihealth.or.th/?p=231016

https://www.bangkokpattayahospital.com/th/healthcare-services/gi-liver-center-th/gi-articles-th/item/511-chew-slowly-th.html

https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/line/%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%9B-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2/

คลิปแนะนำอีจัน
เปิดนาทีหนีตาย กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย