ปาฏิหาริย์มีจริง ผู้หญิงคนที่ 2 ของโลก หายป่วยมะเร็งเต้านม

ชีวิตใหม่ของหญิงวัย 57 ฝ่ามรสุม “มะเร็ง” สู่การได้ชีวิตใหม่ ด้วยระบบภูมิคุ้มกันบำบัด

เธอคนนี้ คือ ผู้รอดชีวิต จาก #มะเร็งเต้านม

และ เป็น คนไข้รายที่ 2 ของโลกที่หายจากมะเร็ง ด้วยระบบภูมิคุ้มกันบำบัด

สวัสดีค่ะ พี่ชื่อ “ติ๊ก” อายุ 57 ปี

เป็นผู้ใหญ่บ้าน ใน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี

พี่ คือ ผู้รอดชีวิตจาก มะเร็งเต้านม วันนี้มันเหมือนได้ชีวิตใหม่ ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว แบบไม่ต้องกังวลหรือปิดบังอะไรเลย

วันแรกของ “มะเร็งเต้านม”

วันนั้นยังจำได้ดีค่ะ เป็นตอนที่พี่กำลังจะอาบน้ำ ตาก็ไปสะดุดบริเวณหน้าอกซ้าย มันมีรอยแดงและบวมขึ้น พอเอามือไปสัมผัส ปรากฏว่าไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย ในใจตอนนั้นก็คิดว่า ไม่น่าจะเป็นอะไร พี่เลือกที่จะปล่อยผ่านไป แต่ไม่ถึงสัปดาห์ จากรอยแดงนั้น กลายเป็นก้อนเนื้อ และเริ่มปริออกมา

“ตอนเเรกคิดว่าเป็นฝี มันไม่เจ็บ ไม่มีหัว เลยใช้สมุนไพรเเปะก่อน แทนที่จะยุบรอยเเดงธรรมดาๆ เริ่มโตขึ้นเป็นก้อนเนื้อ รู้สึกว่ามันจะเริ่มลาม พี่ทำเเผลเองด้วยนะ บางครั้งเลือดก็ออกเยอะมาก เเต่ใจยังสู้อยู่ เเต่อีกใจนึงก็คิดว่าไม่น่าจะใช่ฝีเเล้ว”
พี่ติ๊ก ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

แม้เลือดไหล แต่ใจพี่ยังสู้อยู่ สู้อยู่กับความไม่รู้ และ เลือกที่จะรักษาเอง ไม่บอกใคร

ความลับนี้ พี่เก็บมันมานาน 1 เดือน มันทำให้พี่ต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆซ่อนๆ เพราะกลัวว่าลูก และ สามีจะรู้ ไม่อยากให้เขาต้องกังวล

แต่เหมือนความลับจะเก็บไม่อยู่ เมื่อลูกชายกลับมาที่บ้าน เป็นเวลาเดียวกับพี่ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ และกำลังจะทำแผล ปกติแล้ว เวลาลูกชายกลับมาที่บ้าน สิ่งแรกที่ลูกจะทำคือ เรียกแม่ แต่วันนั้น ลูกเดินเข้ามาในบ้าน โดยที่พี่เองก็ไม่รู้ตัว ความลับที่เก็บมานานก็ถูกเปิดเผย เมื่อลูกเห็นกับตา

แผลบนอก ทำลูกชายพี่ช็อก และตัวพี่เองก็ช็อกไม่แพ้กันค่ะ

เราทำได้แค่เงียบ จังหวะนั้นทำอะไรไม่ถูกจริงๆ

ลูกชายตัดสินใจโทรหาพี่ชายของพี่ที่อยู่ กทม. ค่ะ ไม่นานพี่ชายก็โทรกลับมาบอกให้พี่เก็บเสื้อผ้า เข้าไปรักษาตัวเองที่ กทม. ตัวเขาเองจะจัดการทุกอย่างให้

วันที่เดินทางเข้า กทม. พี่ชายพาเราไปที่ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เราได้เจอกับ หมอกฤษณ์ จาฎามระ หัวหน้าศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ เพื่อมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย วันนั้น เป็นครั้งแรกที่ได้รู้ว่า ก้อนเนื้อที่โผล่ขึ้นมาบนหน้าอก นั่นคือ มะเร็ง

“แผลเป็นแบบนี้คนไข้สู้เหรอ คนไข้อยู่ได้ยังไง สุดยอดจริงๆไม่เคยเจอคนไข้แบบนี้เลย”
หมอกฤษณ์ จาฎามระ

หมออุทานออกมา หลังเจอแผลของพี่พร้อมยืนยันชัดว่า นี่คือ มะเร็ง

หมออธิบาย ว่า มะเร็งมีอยู่ 4 ชนิด

ชนิดที่ 1 โอกาสกลับมาไม่มีเลย

ชนิดที่ 2 มีโอกาสกลับมา แต่ว่าก็น้อย

ชนิดที่ 3 กลับมา แต่ต้องเฝ้าระวัง

ชนิดที่ 4 ดุมาก และกลับมาเร็วที่สุด

อาการของพี่ เป็นมะเร็งชนิดที่ 3 ค่ะ แต่อยู่ในขั้นที่ลุกลาม แต่ไม่ลุกลาม แต่หมอพูดออกมาประโยคหนึ่งที่ทำให้ใจชื้น หมอพูดไปยิ้มไป ว่า หมอรักษาได้ “แต่ขั้นตอนการรักษาไม่ต้องถามนะ หมอจะทำตามขั้นตอนเอง” เมื่อหมอพูดมาแบบนี้แล้ว บอกตรงๆว่า พี่สบายใจมากๆ

หมอยังถามอีกนะคะ ว่า “คนไข้จะเอาแบบเปิดหรือแบบปิด”

แบบเปิด ที่คุณหมอบอก คือ กระบวนการรักษา คนไข้จะรับรู้ทุกอย่าง

ส่วนแบบปิด คือ หมอจะไม่บอกคนไข้ เกี่ยวกับการรักษา แต่จะบอกญาติแทน

เราเลือกแบบ “เปิด” ค่ะ เพราะ อยากรู้วิธีการรักษาของคุณหมอ แต่ถ้าคุณหมอมั่นใจ พี่ก็มั่นใจ

“ตอนนั้น พอรู้ว่าเป็นมะเร็งก็คิดมาก แต่ไม่เครียดอะไร มีทำใจไว้บ้างแล้ว ถ้าไม่หายก็คงต้องพึ่งไสยศาสตร์ รักษาด้วยสมุนไพร”
พี่ติ๊ก ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

หลังจากวันที่ตรวจร่างกายเสร็จ ก็เตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการรักษา แบบเต็มตัว

ขั้นตอนแรก หมอกฤษณ์ เริ่มต้นวิธีรักษาพี่ด้วยการให้คีโมก่อน ให้คีโมอยู่ประมาณ 4 ครั้ง ถ้าจำไม่ผิด ผลข้างเคียงน้อยมาก เห็นหลายคนทำคีโมแล้วผมร่วงหมดหัว แต่ตัวเองมีร่วงบ้าง แต่น้อย ทั้งร่วงทั้งขึ้นใหม่ ถือว่าโชคดีจริงๆ

ขั้นตอนต่อไป คือ การฉายแสง

วันนั้นที่เดินเข้าไปในห้องสีขาวๆ มองเห็นเครื่องมืออะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด มีทั้งแบบกลมและแบบเหลี่ยม หมอก็ให้ขึ้นไปนอนบนเตียง และเริ่มทำการฉายแสง

รวมฉายแสงไปทั้งหมด 47 ครั้ง เป็นการฉายแสงที่ไม่ทรมานเลย ไม่เจ็บ ไม่ร้อนด้วย นอนสบายๆ

เสร็จสิ้นกระบวนการฉายแสง วันที่ 25 พ.ย.62

หมอนัดผ่าตัดวันที่ 11 ก.พ.63

หลังจากวันนั้น ก็กลับมาที่ จ.สุราษฎร์ธานี ใช้ชีวิตปกติ รอวันที่เข้าไปผ่าตัด

เชื่อไหมคะ เจอเพื่อนบ้าน มีแต่คนมาถามว่า ทำไปทำคีโมแต่ทำไมผมไม่ร่วงเลย พี่ก็ไม่รู้จะบอกยังไง เพราะตัวพี่เองก็ยังตกใจอยู่เหมือนกัน ไม่เหมือนคนอื่นๆที่เคยทำคีโม

11 ก.พ.64 วันผ่าตัดครั้งใหญ่

ก่อนผ่าตัด หมอบอกพี่ว่า ต้องใช้วิธีผ่าตัดเปิดท้อง ทำอุโมงค์เชื่อมไปยังแผล แล้วเอาอวัยวะที่เรียกว่า อเมนตัม หรือ ชั้นเยื่อบุช่องท้อง มาปิดคลุมแผลอุโมงค์ข้างใน เพื่อให้เนื้อสมานกัน แล้วทำ Skin Grafting นำผิวหนังที่ต้นขามาปลูกถ่าย ขั้นตอนนี้ คุณหมอเลาะผิวหนังที่ต้นขาออกมาค่ะ แล้วเอาไปปิดแผล

การผ่าตัดใช้เวลาถึง 6 ชั่วโมง พี่รู้สึกตัวอีกทีก็มีผ้าพันแผลที่บริเวณหน้าอก และรู้สึกแสบที่ต้นขามาก หมอเข้ามาตรวจ แล้วบอกว่าอย่าเพิ่งขยับ ต้องระวังอย่าให้แผลกระทบกระเทือนมาก แต่เชื่อไหมคะ ว่ามันวิเศษตรงที่ วันแรกพี่สามารถขยับตัวได้เลย

“เจ็บที่สุดเหรอ น่าจะเป็นต้นขา มันไม่ได้เรียกว่า เจ็บ แต่เรียกว่าแสบมากกว่า แสบมากน้อง คีโม ฉายแสง ผ่าตัด ยังไม่แสบเท่านี้ หมอก็แซวว่า หมอไม่มียาแก้แสบนะ”
พี่ติ๊ก ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

การผ่าตัดของพี่ฟังยาก หมอเหมือนจะยากนะ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี หลังจากผ่าตัดไป 3 วัน หมอมาตรวจแผลอีกครั้ง บอกเนื้อสมานกันแล้ว เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ หมอเก่งมากๆค่ะ นับถือหัวใจคุณหมอที่สุด

แต่ … ดีใจได้ไม่นาน

10 เดือนหลังจากนั้น หมอตรวจเจอ สะเก็ดมะเร็งที่ปอด จริงๆ จุดนี้หมอเจอนานแล้ว และคอยเฝ้าติดตามอยู่ตลอด สะเก็ดไม่โตขึ้น ยังขนาดเท่าเดิม แต่กลับไม่ลดลงเลย คุณหมอกฤษณ์ตัดสินใจ สะเก็ดมะเร็งนี้ ต้องกำจัดมัน !!!

หมอกฤษณ์กำจัดเซลล์มะเร็งนี้ ด้วยระบบภูมิคุ้มกันบำบัด

บอกตรงๆว่า ไม่ได้ถามอะไรหมอเลย เพราะจำคำหมอได้ว่าไม่ต้องถามอะไร

เห็นแค่เพียงขั้นตอนที่หมอทำ คือ เจาะเอาเนื้อออกไป เนื้อที่หมอเรียกว่า ภูมิคุ้มกัน แล้วเอาไปเลี้ยงคู่กับโปรตีน ก่อนจะเอากลับมาฉีดเข้าที่ต่อมน้ำเหลือง หมอฉีดลงที่ต้นคออยู่หลายครั้ง หลังจากนั้นก็เฝ้าติดตามดูอาการ ตรวจสแกนอย่างต่อเนื่อง จนเซลล์มะเร็ง กลายเป็นศูนย์

“พูดตรงๆ เหมือนที่หมอบอกว่า รักษาหายได้ ชนิดมะเร็งของเรา มีโอกาสกลับแต่ต้องเฝ้าระวัง หลังจากผ่าตัดแล้วก็ต้องดูอาการ พี่ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร หมอบอกเราต้องร่าเริง สดใจ กำลังต้องมาเป็นที่ 1 ไม่งั้นโรคจะข่มเหงเรา”
พี่ติ็ก ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

ชีวิตนี้คิดว่าจะไม่รอดจากมะเร็ง คือ ทำใจไว้รอแล้วค่ะ

แต่พอได้เจอกับหมอกฤษณ์ ชีวิตนี้เหมือนได้เกิดใหม่จริงๆ”

“ปาฏิหาริย์มีจริง หมอเก่งมากๆ โรคนี้น่ากลัวกว่าโควิดเยอะ เพราะ เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า มันจะลุกลามไปที่ไหนของร่างกาย สำหรับผู้หญิงคนไหนที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งเต้านมอยู่นะคะ ขอให้สู้ ไม่ต้องไปท้อ เดี๋ยวนี้ยาดี หมอดี อยู่ที่กำลังใจเรา ไม่ใช่ว่าพอรู้ว่าเป็นมะเร็ง เเล้วไม่รักษา มันไม่ใช่ อย่าไปท้อเลย ให้รักษา กำลังใจมาเป็นอันดับหนึ่ง ขอให้สู้เถอะ ถ้าใจเราสู้ คือเราหาย ถ้าเราไปยอมเเพ้ต่อโรค มันก็ชนะเรา”
พี่ติ๊ก ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม

ทุกวันนี้ พี่กลับใช้ชีวิตปกติ กินข้าวกับครอบครัว ออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน เกี่ยวข้าว ทำสวน เหมือนปกติที่เคยทำได้แล้ว ไม่ต้องคอยกังวลว่าแผลจะปริ หรือ ครอบครัวจะรู้ บอกได้คำเดียวว่าหมอเก่งมากๆ และ กำลังใจต้องดี ถึงจะก้าวผ่านมรสุมนี้ไปได้ค่ะ

นี่เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของทีมแพทย์ไทยค่ะ

พี่ติ๊ก คือ ผู้หญิงคนที่ 2 ของโลกที่รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านม

เป็นก้าวแรกของความสำเร็จ และเป็นความหวังใหม่ของผู้หญิงไทยค่ะ

อีจันขอเป็นกำลังใจให้กับผู้หญิงที่กำลังสู้กับโรคร้ายนี้อยู่นะคะ

คลิปอีจันแนะนำ
ผลกระทบ!น้ำมันรั่ว #ทะเลอ่าวไทย