พ.ต.ท.บรรยิน โดนโทษจำคุกต่อ! คดีวางแผนแหกคุก

ศาลพิพากษาคดี พ.ต.ท.บรรยิน วางแผนแหกคุก โทษจำคุก 3 ปี ปรับ 50,000 บาท ให้นับโทษต่อจากคดีที่เกี่ยวเนื่อง

วันนี้(31 พ.ค. 65) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน นัดฟังคำพิพากษา คดีที่ อท 138/2564 คดีวางแผนแหกคุก ในความผิดฐานเป็นผู้ใช้ จ้างวาน สนับสนุนผู้อื่นให้กระทำผิด , กระทำให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจศาล หลุดพ้นจากการคุมขัง โจทก์คือพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด จำเลยคือ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยทนายฝ่ายจำเลยเดินทางมาศาล ส่วนจำเลยถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางบางขวาง

ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 139, 140 วรรคสาม, 191 วรรคสอง วรรคสาม, 309 วรรคสอง และ 310 วรรคแรก ประกอบมาตรา 84 วรรคสอง การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด ฐานกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล หลุดพ้นจากการคุมขังโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยมีหรือใช้อาวุธปืนอันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ลงโทษจำคุก 3 ปี และ ปรับ 50,000 บาท หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา29, 30 นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีหมายเลขแดงที่ อ 636/2563 ของศาลอาญากรุงเทพใต้, คดีหมายเลขแดงที่ อ 3889/2561 และคดีหมายเลขแดงที่ อ 3890/2561 ของศาลอาญาพระโขนง และคดีหมายเลขแดงที่ อท 190/2563 ของศาลนี้

สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2563 มีรายงานว่า มีคนร้ายวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ต้องหาร่วมกันกับพวก อุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะนั้น ต่อมาชุดสืบสวนกองปราบปรามได้สืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวจนสามารถจับกุมตัวนายโจ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลักทรัพย์ หลังได้รับการประกันตัวออกมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่มาก่อเหตุลักทรัพย์ที่ซอยลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ และยังคงมีหมายจับค้างเก่าติดตัวอีก 1 หมาย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบปากคำ นายโจ สารภาพว่ารู้จักกับ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ในเรือนจำ จากนั้น พ.ต.ท.บรรยิน ได้ให้ทนายความส่วนตัวติดต่อทนายอีกคนให้มาประกันตัวตนออกจากเรือนจำ ส่วนสาเหตุที่ พ.ต.ท.บรรยิน ช่วยประกันตัวนั้น เพราะ พ.ต.ท.บรรยิน มีคำสั่งให้ตนทำงานให้ 2 อย่าง คือ ให้หาทางชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ออกจากคุก แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ ให้หาทางลักพาตัวภรรยาของ ผบ.เรือนจำ มาให้ได้ เพื่อใช้ต่อรองกับ ผบ.เรือนจำ เรื่องการหนีออกจากคุก

นายโจ ยังบอกอีกว่า พ.ต.ท.บรรยิน ให้ติดต่อหา ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์ ที่เคยเป็นลูกน้องเก่า เพื่อร่วมกันวางแผน ซึ่งตนก็ได้ติดต่อไป แต่ ส.ส.คนดังกล่าวไม่ร่วมด้วย และตนยังติดต่อไปหาอีกเพื่อขอเงินแต่ก็ไม่ได้ จึงมาก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าว และถูกจับกุมในที่สุด

นอกจากนายโจแล้ว ชุดสืบสวนกองปราบปรามยังจับกุมตัวนายท็อป อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีกรรโชกทรัพย์ ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ภูมิลำเนาเดียวกันกับ พ.ต.ท.บรรยิน โดยจากสืบสวนข่าวภายในเรือนจำได้ข้อมูลว่า ระหว่างที่นายโจและนายท็อปอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ค่อนข้างมีความสนิทกับ พ.ต.ท.บรรยิน จากนั้นก็ได้รับการประกันตัวออกมาทั้ง 2 คน แล้วพยายามวางแผนช่วย พ.ต.ท.บรรยิน แหกคุกดังกล่าว

คลิปอีจันแนะนำ
ยกฟ้อง โชเฟอร์สิบล้อ 3 ปี สู้คดีตำรวจยัดยา?