รัฐบาล เล็ง แก้ปัญหา หนี้ เช่าซื้อ รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์

รัฐบาล เดินหน้า แก้ปัญหา หนี้ครัวเรือน เล็ง แก้ หนี้ เช่าซื้อ รถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ พร้อมเตรียมปรับปรุง อัตราดอกเบี้ย

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้เช่าซื้อ รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี โดยปัจจุบันพบว่า ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะ ในการกำกับดูแลธุรกิจเช่าซื้อ และไม่มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแล ธุรกรรมเช่าซื้อเป็นการเฉพาะ ทำให้เกิดการทวงหนี้ที่ไม่เป็นธรรม รัฐบาลโดยคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ จึงได้เข้าไปแก้ไขปัญหาดังกล่าว ในเบื้องต้นมีการออกประกาศ กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายในการทวงหนี้ เพื่อคุ้มครองลูกหนี้ ไม่ให้ถูกเก็บเงินในการทวงถามหนี้เช่าซื้อ รถยนต์และรถจักรยานยนต์เกินความจำเป็น มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา สาระสำคัญ คือ อัตราค่าทวงถามหนี้กรณีทั่วไป รวมจำนำทะเบียน ให้คิดไม่เกิน 50 บาทต่อรอบการทวงถาม กรณีค้างชำระ 1 งวด และคิดไม่เกิน 100 บาทต่อรอบการทวงถาม กรณีค้างชำระมากกว่า 1 งวด, อัตราค่าทวงถามหนี้ สำหรับปฏิบัติการลงพื้นที่ติดตามถามหนี้ฯ คิดไม่เกิน 400 บาทต่อรอบ และเก็บต่อเมื่อลูกหนี้ค้างชำระมากกว่า 1 งวด, กำหนดให้ไม่มีการเก็บค่าทวงถามหนี้ กรณีค่างวดที่ถึงกำหนดชำระต่ำกว่า 1,000 บาท เพื่อคุ้มครองประชาชนรายย่อยที่จ่ายค่างวดจำนวนน้อย ๆ

ขณะเดียวกัน สำนักงานคณะกรรมการการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) อยู่ระหว่างการทบทวนและปรับปรุง ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเพื่อแก้ไขหนี้เช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ เพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยไม่ให้สูงกว่าความเสี่ยงที่แท้จริง พร้อมทั้งปรับปรุงเงื่อนไขการยึดและคืนรถให้เป็นธรรมมากขึ้น รวมทั้งกำหนดแนวทางการคิดยอดหนี้เช่าซื้อคงเหลือ กรณีที่มีการคืนรถและกรณีที่เจ้าหนี้ยึดคืน ให้ชัดเจนและเป็นธรรม คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ในอีกไม่นานนี้ และทุกขั้นตอนต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

ส่วนเรื่องที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติมจากนี้ เพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมาย ปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า จะประกอบด้วย สามเรื่อง ได้แก่

1.การกำหนดหน่วยงานเพื่อเข้ามากำกับดูแล ธุรกิจสินเชื่อหรือธุรกรรม ที่มีลักษณะคล้ายสินเชื่อ เพื่อให้ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มีหน่วยงานกำกับดูแลเป็นการเฉพาะ

2.พิจารณามาตรการดูแลประชาชน ที่เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่ปัจจุบันไม่ได้อยู่ภายใต้การดูแลของ สคบ. เช่น คนขับรถแท็กซี่, คนขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่เช่าซื้อรถมอเตอร์ไซต์, เกษตรกรที่เช่าซื้อรถไถ มาเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากิน ซึ่งปัจจุบันคนกลุ่มนี้กำลังประสบปัญหาและไม่ได้รับความเป็นธรรม

3.จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาจากกรณีเช่าซื้อรถและการทวงถามหนี้ที่ไม่เป็นธรรมเพื่อให้มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน

คลิปอีจันแนะนำ
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คอลหาจันแต่ต้นปี!