คนหายกลายเป็นศพ เหลือแต่กระดูก!
เมื่อ 2 เดือน ที่แล้ว นายกิตติศักดิ์ อายุ 44 ปี ได้หายตัว ออกจากบ้าน ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 2564 ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางสมบูรณ์ อายุ 76 ผู้เป็นแม่ ได้ออกตามหาลูกชายมาโดยตลอด
จนล่าสุด เมื่อวานนี้ 11 พฤศจิกายน 2564 นายสุพจน์ อายุ 58 ปี มาสูบน้ำใส่นาข้าว ที่หมู่ 11 บ้านบ่อน้อย ต.เชียงยืน จ.อุดรธานี ในขณะกำลังรดน้ำต้นไม้ที่เถียงนา ก็พบกะโหลกมนุษย์วางอยู่ ตนคิดว่าเป็นของเล่น ที่หมาคาบมา ซึ่งที่บ้านเลี้ยงหมา 8 ตัว แต่พอจ้องดูดีๆ พบว่าเป็นกะโหลกมนุษย์
จนกระทั่ง หมาอีกตัว ชื่อ “บักจ่อย” ได้คาบกระดูกมาอีก ทำให้ตนสงสัยเรียกเพื่อนมาดู ก็พบโครงกระดูกมนุษย์ กระจัดกระจายอยู่ในพงหญ้า ตนจึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และแจ้งตำรวจมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบกะโหลกมนุษย์ ห่างไปประมาณ 100 เมตร ติดกับไร่อ้อย และพบโครงกระดูก วางกระจัดกระจายอยู่ในพงหญ้า
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบเสื้อผ้ากองอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่ได้เก็บกะโหลก และกระดูกมาห่อด้วยผ้าขาว ไปตรวจสอบ พบว่า เป็นกระดูกมนุษย์ ผู้ชาย เสียชีวิตมาประมาณ 1-2 เดือน
เมื่อทราบข่าว นางสมบูรณ์ ผู้เป็นแม่ เดินทางมาดูกระดูก บอกว่า “มั่นใจว่ากระดูกนี้ เป็นของลูกชาย ที่หายตัวออกจากไปเมื่อ 2 เดือนก่อน
ก่อนหน้านี้ ลูกชายประสบอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ล้ม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ต้องผ่าตัดสมอง เมื่อรักษาหายกลับบ้าน ก็ต้องกลายเป็นคนพิการทำงานไม่ได้ แถมยังมีอาการลมชักอีกด้วย ลูกชอบเดินไปเถียงนาประจำ
และสิ่งที่ทำให้แม่มั่นใจ ว่ากระดูกนี้ คือ ลูกชาย เพราะที่กะโหลก มีรอยผ่าตัดสมอง ตนรู้สึกโล่งใจที่พบลูกแล้ว”
ทางด้านตำรวจ สันนิษฐานว่า วันเกิดเหตุผู้ตาย เดินกลับบ้านตามลำพัง แต่โรคลมชักกำเริบ ไม่มีใครพบเห็นและช่วยเหลือ จึงทำให้เสียชีวิต
ทางครอบครัวได้นำกระดูก ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
อีจันขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ
คลิปอีจันแนะนำ
“แม่เชื่อ…คดีน้องจูนต้องได้รับความยุติธรรม”