สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เผยความคืบหน้าการติดตามผลการตรวจสอบ กรณี การจัดซื้อเสาไฟฟ้าแสงสว่าง พร้อมรูปประติมากรรม ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ
โดย นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยว่า
ว่า เกี่ยวกับภารกิจตรวจสอบการใช้จ่ายงบเงินประมาณภาครัฐในการจัดทำโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้แสงสว่าง พร้อมรูปประติมากรรม ของ อปท.หลายแห่งที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนอยู่ในขณะนี้นั้น
ในข้อเท็จจริง สตง. เริ่มตรวจสอบและพบข้อสังเกตรวมถึงปัญหาการดำเนินงานโครงการ ลักษณะนี้ มาตั้งแต่
ช่วงปี 2555
ในการดำเนินงานโครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าสาธารณะประติมากรรมรูปสิงห์ พร้อมอุปกรณ์ระบบไฟฟ้า
ขององค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในจังหวัดสิงห์บุรี ที่ใช้งบประมาณ กว่า 722,595 บาท ในการจัดทำเสาไฟฟ้า
รูปสิงห์ จำนวน 13 ต้น เฉลี่ยต้นละประมาณ 5.5 หมื่นบาทต่อตัน
ซึ่งสูงกว่าเสาไฟฟ้าทั่วไปประมาณต้นละ 1.5 หมื่นบาท
นอกจากนั้น ยังพบว่าใช้งานได้เพียงบางส่วนเท่านั้น จึงได้แจ้ง อบต.ให้มีการปรับปรุงแก้ไข
รวมถึงทำหนังสือแจ้งกระทรวงมหาดไทยว่า โครงการติดตั้งเสาไหฟ้ารูปประติมากรรม กำลังได้รับความสนใจจาก อปท.
หลายพื้นที่ทั่วประเทศ
เพราะขณะนั้นกระทรวงมหาดไทย ควรจะต้องกำชับท้องถิ่นให้กำกับดูแลเรื่อง การใช้จ่ายเงิน
ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าและสามารถสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง
นายประจักษ์ บุญยัง กล่าวต่อว่ หลังจากนั้น สตง. ได้กำหนดแผนงานในการเข้าไปติดตามตรวจสอบการ
ใช้จ่ายเงิน ในโครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าสาธารณะประติมากรรมของ อปท.ทั่วประเทศ ว่ามีพื้นที่ใดบ้าง ที่มีการ
ดำเนินงานในลักษณะเดียวกันกับ อบต.ดังกล่าว
ทั้งในเรื่องของราคา และการติดตั้งเป็นไปตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องหรือไม่
โดยพิจารณาตามมาตรฐานไฟฟ้าสาธารณะ ปี 2548 ซึ่งออกโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทยเป็นสำคัญ ซึ่งกำหนดมาตรฐานสำคัญไว้หลายส่วนด้วยกัน
เช่น มาตรฐานความส่องสว่าง ระยะห่างของจุดติดตั้งเสาไฟฟ้าสาธารณะ รูปแบบของการติดตั้ง กรณีติดตั้งสองฝั่งถนน ติดตั้งกลางถนน เป็นต้น
แต่มาตรฐานนี้ยังไม่มีเรื่องประติมากรรมบนเสาไฟฟ้าแต่อย่างใด
ต่อมาในปี 2560 สตง.ได้ตรวจสอบโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้าแสงสว่าง พร้อมประติมากรรมรูปกินรี ของ อบต.ราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
และพบว่า มีประเด็นข้อสังเกตหลายประการ เช่น
ราคาเสาไฟฟ้ที่จัดซื้อมีราคาสูง
การกำหนดราคากลางไม่ถูกต้อง
การติดตั้งไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และ มาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
ปัญหาเรื่องการชำรุด ขาดการดูแลบำรุงรักษา
ประกอบกับผลการตรวจสอบในพื้นที่อื่น ๆ มีลักษณะเช่นเดียวกัน
สตง. จึงวิเคราะห์ในภาพรวม และได้มีหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบพร้อมข้อเสนอแนะไปยัง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และสำเนาหนังสือส่งปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560
จากนั้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2561 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้มีหนังสือแจ้งผู้ว่า
ราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้แจ้งกำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ สตง.
หากจะดำเนินโครงการติดตั้งเสาไฟฟ้าประติมากรรม เป็นแนวทางปฏิบัติในการดำเนินงานโครงการฯ
กรณีการตรวจสอบในส่วนของ อบต.ราชเทวะ ในปี 2560
สตง. ได้ออกหนังสือแจ้งให้ อบต.ราชาเทวะ ดำเนินการให้มีการชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐ จำนวน 67.29 ล้านบาท
ดำเนินการทางวินัยกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนั้นผลการตรวจสอบพบว่า
“มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการใช้จ่ายเงิน มีพฤติการณ์อันเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ / จงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติของกฎหมาย”
จึงได้มีการแจ้งผลการตรวจสอบและส่งเรื่อง พร้อมเอกสาร หลักฐานประกอบ ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงนข้องกันและปราบปรามการฟอกงิน (ปปง.) พิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติ มาตรา 7 แห่งพระราขบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจ
เงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561
สำหรับการตรวจสอบโครงการจัดซื้อเสาไฟฟ้าแสงสว่าง ตั้งแต่ปี 2562 – 2564 ของ อบต.ราชาเทวะ
สตง.มีแผนงานในการเข้าตรวจสอบและติดตามผลการดำเนินการอยู่แล้ว
ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีการบูรณาการและประสานงานความร่วมมือกัน กับหน่วยงานตรวจสอบแห่งอื่นอีกด้วย ผลการตรวจสอบเป็นอย่างไร จะแจ้งให้ทราบต่อไป
สตง. ยังบอกอีกว่า จากการเป็นประเด็นที่สังคมสนใจเรื่องเสาไฟฟ้า ทำให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ตระหนักถึง
ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จึงมีนโยบายในการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เป็นลักษณะไฟไหม้ฟาง
และเกิดปัญหาเช่นนี้อีกในอนาคต
และให้มีมาตรการเชิงระบบในการป้องกันกำกับดูแล เรื่องการใช้จ่ายเงินในโครงการฯ ลักษณะนี้ให้เกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
โดยให้ สตง. ดำเนินการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเร่งด่วน เพื่อเสนอแนะแนวทางหรือมาตรการในการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน รวมไปถึงการเชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และตัวแทนองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยกันพิจารณากำหนดแนวทางหรือมาตรการในการดำเนินการที่ชัดเจนต่อไป
เรื่องเสาไฟฟ้าประติมากรรม ถ้ามองเผินๆ เราก็คงจะได้ความรู้สึกถึงความสวยงาม สีสัน ให้พื
แต่หากเรามองให้ลึกลงไป ก็คงเกิดคำถามมากมาย ตามที่ สตง.ออกมาชี้แจง และกำลังพิจารณาเพิ่มเติมอยู่
ก็รอติดตามต่อไปค่ะว่า เรื่องนี้ ผลสรุปของการพิจารณา จะเป็นอย่างไร