ฟอร์จูนเนอร์ ยืนยัน ตนไม่ได้ชนแล้วหนี

จากกรณีรถจักรยานยนต์ ขับไล่ตามรถฟอร์จูนเนอร์ ที่ชนแล้วหนี ล่าสุดคนขับฟอร์จูนเนอร์ ให้การปฏิเสธ ตนไม่ได้ชนแล้วหนี

วานนี้ ( 13 พ.ย.62 ) จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวีดีโอ ไล่ตามรถฟอร์จูนเนอร์ชนแล้วหนี โดยระบุข้อความว่า “ตาม เจอแน่ ผมแค่ จอดให้ลุงลงมาดู รถคู่กรณีที่ลุงไปเบียดเค้า” ซึ่งคลิปดังกล่าว มีการแชร์กันอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

 ต่อมาตำรวจ สน.คลองตัน ได้รวบตัว พลตรี สุรศักดิ์ จิตบุญ ในข้อหาชนแล้วหนี เมื่อเวลา 16:00 น. ของวันที่ 13 พ.ย.62 ที่สถานีรถไฟฟ้าพระโขนง โดยมีรถผู้เสียทั้งหมดหาย 3 คัน 

จากการสอบถาม นายวรยุทธ ปิ่นใจ ผู้ถ่ายคลิปดังกล่าวเล่าว่า เห็นรถฟอร์จูนเนอร์ปาดหน้ารถ CBR สีดำ แล้วรถ CBR สีดำลงจึงมาเคาะกระจกเพื่อให้คนชนลงมา แต่คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ไม่ยอมลงแล้วขับหนีไป โดย นายวรยุทธ ขับไล่ตามเพื่อจะขวางหน้ารถฟอร์จูนเนอร์ให้จอด แต่คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ก็ไม่จอดโดยได้เปิดกระจกรถลงมาพูดอะไรสักอย่างซึ่งตนฟังไม่ได้ความ ซึ่งหลังจากพูดเสร็จรถฟอร์จูนเนอร์ก็ขับรถถอยหลัง และพุ่งชนรถวิ่งขวางข้างหน้ารวมทั้งรถของตนด้วย ตนจึงถ่ายคลิปบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ นายนันทวัฒน์ ชูดำ คนที่ขับรถจักยานยนต์ลาล่ามูฟ ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ได้ขับไล่ตามมาตอนที่เห็นฟอร์จูนเนอร์ ตนจึงจอดขวางหน้ารถฟอร์จูนเนอร์ โดยฟอร์จูนเนอร์ได้เปิดกระจกรถต่อว่า “ไม่ใช่เรื่องของตนอย่ามายุ่ง” จากนั้นก็โดนฟอร์จูนเนอร์ขับรถพุ่งชนอย่างจัง

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน

ส่วน พลตรีสุรศักดิ์ จิตต์บุญ อายุ 76 ปี คนขับรถฟอร์จูนเนอร์เล่าว่า ตนไม่ได้ชน ไม่รู้สึกอะไร ตอนขับรถตนไม่ลงจากรถ เพราะกลัว เนื่องจากมีรถมอเตอร์ไซค์เยอะแยะมารุมหน้ารถ เลยขับหนี ไม่ได้ตั้งใจชน พร้อมยืนยันว่า ตนไม่ได้ชน

ภาพจากอีจัน

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา รอง ผกก.จร.สน.คลองตัน กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี พลตรีสุรศักดิ์ จิตต์บุญ อายุ 76 ปี คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน ญห 3798 กรุงเทพมหานคร หัวร้อนขับชนรถจักรยานยนต์ ก่อนขับหนีไม่ลงมารับผิดชอบบริเวณบีทีเอสพระโขนงจนถูกตามล้อมสกัด ย่านเอกมัย ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ( 13 พ.ย.) ตำรวจได้คุมตัวนายพลรายดังกล่สวมาสอบปากคำที่ สน.คลองตัน ก่อนจะมีการเจรจาตกลงกับฝั่งคู่กรณี โดยประกันจะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และได้ให้ประกันตัวไปโดยวางหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 15,000 บาท ก่อนจะปล่อยตัวกลับบ้านไป ส่วนมาเหตุที่ขับรถชนและหลบหนีนั้น นายพลได้ให้ข้อมูลกับตำรวจว่าไม่ทราบว่ารถเกิดการเฉี่ยวชน เมื่อเห็นรถจักรยานยนต์ไล่ตามมา และขับรถมาขวางด้ายหน้าจึงเกิดความกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ส่วนผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ไม่พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ในกระแสเลือด