จากใจ ประวิทย์ มาลีนนท์ ถึง…พี่ยุทธ

เป็นข่าวใหญ่ของวานนี้ (21 ม.ค. 63) หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา พิพากษาแก้โทษ จำคุก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กก.ผจก.บจก.ไร่ส้ม และอดีตพิธีกรรายการเล่าข่าวชื่อดัง 6 ปี 24 เดือน ไม่รอลงอาญา ในคดีค่าโฆษณา อสมท.

ภายหลังผลคำตัดสิน ได้มีเหล่าคนดังออกมาให้กำลังใจนายสรยุทธ อย่างล้นหลาม รวมถึง น.ส.พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ หรือ ไบร์ท และ โก๊ะตี๋ อารามบอย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สรยุทธ โพสต์ข้อความสุดท้าย น้อมรับคำพิพากษา ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ
• ไบร์ท – โก๊ะตี๋ หลั่งน้ำตา หลังศาลพิพากษาจำคุกสรยุทธ คดีไร่ส้ม
• ศาลฎีกาแก้คำพิพากษา จำคุกสรยุทธ 6 ปี 24 เดือน
• ทูลกระหม่อมหญิงฯ ประทานกำลังใจให้สรยุทธ…ขอให้เข้มแข็ง
  

22 ม.ค. 63 ผ่านไปหนึ่งวันหลังคำตัดสิน นายประวิทย์ มาลีนนท์ อดีตกรรมการบริษัท บางกอกเอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ในเครือบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ได้ให้สัมภาษณ์กับอีจัน ว่า มีคนถามตนว่าตนไปที่ศาลทำไม ทั้งที่คดีไม่ได้เกี่ยวกับช่อง 3 ตนก็ตอบไปว่าไปให้กำลังใจพี่ยุทธ เพราะอย่างน้อยที่สุดตนกับพี่ยุทธก็มีความคุ้นเคยกันมามากกว่า 10 ปีและพี่ยุทธก็ทำรายการให้กับช่อง 3 มาตั้งแต่ปี 2547 ก็ยาวนาน ถือว่ามีความผูกพันกันอยู่ตนก็เลยไปให้กำลังใจ

เมื่อถามว่าโดยส่วนตัวแล้วตนกับพี่ยุทธได้มีการคุยถึงเรื่องคดีที่เกิดขึ้นบ้างไหม ตนขอตอบว่าเวลาเจอกันไม่ได้มีการคุยถึงเรื่องคดีเลย เพราะส่วนใหญ่ตนกับพี่ยุทธจะคุยกันเรื่องงานมากกว่า เพราะพี่ยุทธก็เป็นห่วงงาน เราเองก็ผูกพันกับรายการที่พี่ยุทธเขาทำ ถ้ามีโอกาสก็จะคุยแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ซึ่งการขาดพี่ยุทธในตัวรายการก็ถือว่าเป็นปัญหาอยู่เหมือนกันตอนนี้ก็กำลังหาทางอยู่ว่าทำยังไงถึงจะมีทางกลับไปอยู่ในสภาพไปอยู่ที่เดิมให้ได้

"ผมเชื่อว่าในด้านกระแสนิยมคงไม่เปลี่ยนมาก แต่ว่าอาจจะเป็นเพราะว่าเริ่มมีการแข่งขันมากขึ้นแล้วก็มีตัวเลือกมากขึ้น ทำให้เขาเอาส่วนการตลาดของเราไป เนื่องจากว่าฐานของเราใหญ่ พอกระทบมันก็กระทบแรงก็เป็นปัญหาที่ใหญ่หลวงจากเดิมที่รายการมีความยาว 3 ชั่วโมงกว่าตอนนี้ลดลงมาก็เหลือประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง" นายประวิทย์ กล่าว

นานประวิทย์ บอกด้วยว่า ตนก็มีความห่วงใยในรายการนี้ด้วย เนื่องจากว่าตนและพี่ยุทธเริ่มรายการนี้มาด้วยกัน ก่อนคำพิพากษาศาลจะออก ตนมีโอกาสคุยกับพี่ยุทธ พี่ยุทธเองก็บอกว่าทำใจแล้ว คำตัดสินจะออกมาอย่างไรก็น้อมรับ

ทั้งนี้ตนไม่อยากก้าวล่วงถึงอีกองค์กร เนื่องจากมีวัฒนธรรมกับแนวคิดในการดำเนินธุรกิจไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างรายการที่ออกอากาศมันบิดเบือนไม่ได้ พอออกอากาศไปแล้วออกไปอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นใครจะไปทำอะไรกับมันไม่ได้ มันไม่มีความลับ

แต่ผมเชื่อว่าก็คงจะคล้ายๆ กัน เช่น วันนี้เราจะออกอากาศอะไร เราจะมีจำนวนคิวโฆษณาเท่าไหร่ เรารู้ล่วงหน้า แล้วก็เป็นของใครเท่าไหร่ เราก็รู้ เพราะออกอากาศไปพรุ่งนี้ก็จะมีหน่วยงานที่เป็นตัวเช็คเพื่อยืนยันว่าที่ออกอากาศไปถูกต้องหรือเปล่า ทุกอย่างวันรุ่งขึ้นก็รู้แล้ว

ทั้งนี้ยอมรับว่าจากกรณีข่าวที่เกิดขึ้นก็ส่งผลกระทบต่อเรตติ้งของรายการพอสมควรซึ่งก็เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องยอมรับสภาพ เมื่อถามตนถึงลักษณะการขายคิวโฆษณาตนก็ต้องขอเรียนว่า แต่ละช่องมีการดำเนินการที่ไม่เหมือนกัน ในอุตสาหกรรมทีวีเวลาเขาจะซื้อ เขาก็จะต้องเข้าหาเจ้าของรายการก่อนที่เหลือก็จะค่อยๆ ไหลมาหาตัวช่อง ในกรณีที่รายการมีโฆษณามากกว่าที่กำหนด ยกตัวอย่างของช่องตน ก็จะมีการประสานเข้ามาว่ายังมีที่เหลือไหม ถ้ามีเหลือก็จะมาซื้อเราแต่ถ้าเกิดทั้งตัวรายการและทางช่องเต็มแล้ว จะทำอย่างไรต่อไปเพราะถ้าหากให้มากไปกว่านี้ก็จะเกิน ผิดระเบียบที่ทางรัฐกำหนดให้ ในส่วนนี้ก็อาจจะมีวิธีแก้ก็คือการขยายเวลาออกอากาศให้มากขึ้นเพื่อรองรับโฆษณา

เมื่อถามว่าหากตัวนายสรยุทธได้รับโทษครบตามกำหนดแล้วทางช่องจะเปิดโอกาสให้กลับมาไหม นายประวิทย์ เผยว่า จริงๆ แล้วตนก็พูดแทนช่อง 3 ไม่ได้แต่ถ้าพี่ยุทธเขายังทำงานได้ ตนเชื่อว่าต้องมีคนเอาไปทำงานแน่นอนเขายังมีคุณค่ามหาศาล ตลอด 10 กว่าปีที่เราทำงานใกล้ชิดกันตลอดเวลา 10 กว่าปีพี่หยุดไม่เคยหยุดซักวันเดียว ป่วยก็มาทำงาน ทำงานเสร็จก็ค่อยบินเข้าโรงพยาบาล น้อยครั้งที่เค้าจะไปต่างประเทศหรือมีโอกาสไปพักผ่อน ผู้ชายที่ชื่อสรยุทธในมุมมองของประวิทย์?

"เป็นคนทุ่มเท ผมก็ติดค้างพี่ยุทธเยอะ เพราะเขามาสร้างชื่อเสียงให้เราทางด้านข่าว อยากให้เขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปให้เร็วๆ แล้วก็หวังว่าวันหนึ่งจะกลับออกมาทำประโยชน์ให้กับสังคมได้อีก อย่างที่เคยทำ" นายประวิทย์ กล่าว