ย้อนคดี น้องพลอยโดนทหารอุ้มฆ่า หลังหายตัวไปนานกว่า 3 ปี

น้องพลอยโดนทหารอุ้มฆ่าหายตัวนาน 3 ปี

21 พฤษภาคม 2557
วันที่น้องพลอยหายตัวไป

พลอยนรินทร์ ผลิผล เด็กสาววัย 24 ปี สาวโรงงานในอ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา หายตัวไปในคืนวันที่ 21 พฤษภาคม 2557

ภาพจากอีจัน
“ปกติน้องก็เลิก 5 โมงนะ แต่วันนั้นน้องมีประชุมเลยเลิกทุ่ม น้องบอกว่าอยากกินยำวุ้นเส้น ทุ่มครึ่งกว่าๆแล้ว น้องไลน์มาบอกว่า จวนจะเสร็จแล้วนะ แม่หาข้าวรอ แม่ก็ส่งไลน์ไปถามว่า เสร็จยัง ก็เริ่มไม่อ่าน โทรไปก็ตัดสายทิ้ง แม่ก็นั่งแป๊บหนึ่ง หมาของน้องมันทำให้แม่รู้สึกผิดปกติแม่เห็น หมานอน น้ำตา ไหลจริงๆ พอเห็นปุ๊บ แม่รู้เลย แม่เปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาตามน้องเดินหาแถวนั้น คิดว่ามันโดนรถชนตกไปในคลองไหม เพราะตรงนั้นมันมีคลองอยู่ แหวกกันแล้วหาตรงที่เกิดเหตุก็หานะแต่ไม่เจอ แม่ตัดสินใจแจ้งความ แต่ยังไม่ครบ 24 ชม. และเป็นผู้ใหญ่ด้วย ตำรวจจึงยังไม่รับ กลับมาบ้าน แต่ตี 3 แม่แต่งตัวออกจากบ้าน แล้วก็อธิษฐานบอกหลวงพ่อโตว่า ถ้าน้องหายไป จุดไหนจุดสุดท้ายขอให้แม่เจออะไรที่เป็นของน้องด้วย แม่อธิษฐานงี้นะ
ภาพจากอีจัน
แล้วแม่ก็ขับไปหาที่เดิม เหมือนที่เพื่อนๆหา ขับรถเข้าไปตรงนี้ ตรงที่จุดหาย ทั้งๆที่หากันแทบตายไม่เจออะไร แต่แล้ว…ไฟหน้ารถมันส่องเห็นกุญแจน้อง โซ่รถตกอยู่ตรงนั้น ใช่เป็นกุญแจโซ่ ล็อครถจักรยาน ซึ่งแม่เป็นคนซื้อเอง ตั้งแต่วันนั้นมันเหมือนเราช็อคไปเลย รู้เลย คนที่เห็นมันตกใจ มันช็อคอะ ไฟหน้า รถส่อง เห็นชัดเลยอะ กรีดร้องอะ
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


น้องพลอยหาย ไร้ร่องรอย เกิดอะไรขึ้นกับเธอ

วันรุ่งขึ้น แม่น้องพลอยได้รับโทรศัพท์ จากแฟนเก่าของลูกสาวถามเรื่องที่พลอยหายตัวไป
มันโทรมาถามได้ข่าวว่า น้องหายเหรอ ผมรู้จากเพื่อน เพื่อนโทรบอกรู้จากเฟซบุ๊ก เพราะวันนั้นกระจายข่าวแล้ว ก็บอกว่า อืม… น้องหาย เอาน้องไปหรือเปล่า มันบอกเปล่า ผมจะเอามาทำไม ผมย้ายแล้ว

ผมก็มีครอบครัวแล้ว มาขอ คือแม่ไม่ยกให้ผม เขาพูดคำนี้ แม่เลยว่า ถ้าเกิดได้ข่าวน้องบอกแม่บ้างนะ เขาบอกครับๆ
นี่แหละ แม่เลย ไม่ได้ติดใจอะไรเลย คิดว่ามันโทรมา มันห่วง
แม่ไม่เคยคิดเลยว่า ในนาทีนั้นผู้ชายคนนี้ได้ฆ่าลูกสาวของเธอไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน

3 ปีแห่งการรอคอย วันที่ลูกสาวได้กลับบ้าน

ทุกวันที่ลูกสาวหายไป แม่พยายามตามหาทุกเบาะแส ทุกแห่งหน
ข้อมูลสุดท้ายที่ตำรวจพบ ทำให้เธอมั่นใจว่า การหายตัวไปของน้องพลอยต้องเป็นผีมือของชายคนนี้

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
สิบเอกพลกฤต วิเศษ ทหารหนุ่มที่เคยมาติดพันน้องพลอย และจริงจังถึงขั้นพาผู้ใหญ่มาสู่ขอ เขาบอกว่าเขาจะมาหมั้นน้องแสนหนึ่ง แต่มีข้อแม้ ว่าเขาจะเอาน้องไปอยู่ด้วย ไปอยู่กับเขา ทำเหมือนเป็นขนมจีนเลยนะ มันไม่ยอม แม่ก็โทรหาน้อง น้องบอกไม่นะแม่ ถ้าแม่ยกให้ น้องพลอยจะไปอยู่กับพ่อนะ
เมื่อน้องพลอยไม่ตกลง สถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยน แม่บอกมันก็บุกเข้าไปในบ้าน ไปทำร้ายน้องในบ้านแม่ ซึ่งมีคนมาบอกแม่ แม่ก็ขับรถเข้าไปห้าม บอกถ้ามึงไม่ไป กูจะแจ้งตำรวจ มันก็ไป
จากคนรักกลายเป็นคนร้าย
แล้วคนในซอยก็เห็นว่ามันขับรถตื้อน้อง จะเอาน้องขึ้นรถให้ได้ เขาเล่าให้ฟัง น้องก็ไม่ขึ้น และรุนแรงถึงขั้นขู่ฆ่า
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
การสืบสวนคดีน้องพลอยหายตัวไป ตำรวจพบเบาะแสคนร้ายซึ่งก็ไม่ไกลจากที่แม่สงสัยมากนัก ภาพจากกล้องวงจรปิด ช่วงเวลา 18.57 น. พบรถต้องสงสัย เป็นรถเก๋งสีดำคล้ายรถของสิบเอกพลกฤษ เลี้ยวเข้าปั๊ม ปตท.ใกล้ที่เกิดเหตุรถจอดจอดในปั๊มนานเกือบ 10 นาที 2 ทุ่ม 5 นาที ขับออกจากปั๊ม ปตท. เลี้ยวขวาไปทาง โรงงานที่น้องพลอยทำงาน

2 ทุ่ม 8 นาที ผ่านหน้า โรงงานที่น้องพลอยทำงาน

2 ทุ่ม 10 นาที เห็นน้องพลอย ปั่นจักรยานออกจากโรงงาน

2 ทุ่ม 18 นาที รถต้องสงสัย มุ่งหน้าไปทางโรงปูนท่าหลวง

2 ทุ่ม 28 นาที ผ่านแยกพุกร่าง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี


ปัญหาคือ เห็นแต่รถไม่เห็นคน เมื่อสืบหารถพบรถคันดังกล่าวถูกขายที่เต็นท์รถ หลังน้องพลอยหายไปได้เพียง 4 วัน

ภาพจากอีจัน
แม่พยายามโทรหามัน เขาถามแล้วตอนนี้เจอน้องพลอยหรือยัง บอกยัง แล้วแม่จะทำยังไงต่อ แม่ก็ต้องหาสิ บอกแล้วเอส เอาน้องไป หรือเปล่า ตอนนั้นรู้แล้วว่าเขาเอาไป เขาบอกเปล่า บอกเอส เป็นลูกผู้ชายมั้ย เอสเป็นทหารมั้ย เอสต้องบอก แม่พูดกับเขาดีนะ เอายังงี้ ถ้าเอาน้องไป เรามาคุยกัน เรามาตกลงกัน เรามีเรื่องที่จะต้องทำ แม่ไม่เอาเรื่อง แม่ มันก็บอกว่า เปล่า พูดอย่างลูกผู้ชายเลยนะ

ก็ไม่รู้สินะ มันตอบอย่างนี้ แล้วมันก็ตัดสายทิ้ง

“ไม่รู้สินะ” เป็นคำพูดสุดท้าย ที่แม่ได้ยินจากปากชายผู้นี้
จากนั้น คดีก็ตันเพียงเท่านี้


คือ มันทำอะไรไว้มันไม่ทิ้งร่องรอย มันก็ตันๆๆๆ คำว่าตัน คือ มันไม่ทิ้งร่องรอย แม่พูดอย่างอึดอัดใจ

จากนั้นศาลทหารออกหมายจับ สิบตำรวจพลกฤต วิเศษ ในข้อหาพรากผู้อื่นไป ซึ่งการอนาจารและกักขังหน่วงเหนี่ยว

ต่อมาสิบตำรวจพลกฤต วิเศษ ถูกให้ออกจากราชการ เนื่องจากไม่มาทำงานและก็หายตัว ไปนับแต่บัดนั้น ในขณะที่คนร้ายหายเข้ากลีบเมฆ แม่ผู้ไม่ยอมแพ้ก็เดินหน้าร้องทุกข์ขอให้ มีคนช่วยติดตามหาลูกสาว ที่เธอมั่นใจอยู่ทุกวัน ว่ายังคงมีชีวิตอยู่

นางพัชรี ปั้นทอง แม่ของน้องพลอย ดิ้นรนตามหาลูกไปทุกที่ที่คิดว่าคนร้ายจะพาไปหลบซ่อน
แต่ตลอด 3 ปี ไม่มีเบาะแส ..

จนกระทั่ง เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2560 เธอได้รับความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ทนายรณณรงค์ พาเธอเข้าร้องเรียนศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยติดตามคดี เนื่องจากผู้ต้องหามีบิดาเป็นนายทหารยศใหญ่

ภาพจากอีจัน
หลังรับเรื่องร้องเรียน สำนักนายกรัฐมนตรีส่งเรื่องให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. สั่งชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และชุดสืบสวนจากกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เร่งออกติดตามหาข่าว สิบเอกพลกฤต ชุดสืบสวนสืบทราบว่าสิบเอกพลกฤตยังหลบซ่อนตัวอยู่ที่ บ้านภรรยาในพื้นที่หมู่ 1 บ้านหนองไม้ไผ่ ต.หนองไม้ไผ่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา

ขณะที่มีกำลังตำรวจทหารเฝ้าปิดล้อมปรากฏว่าผู้ต้องหา ไหวทันวิ่งหนีเข้าป่าอ้อยจนต้องส่ง เฮลิคอปเตอร์บินไล่ล่ากดดัน แต่…ไม่พบตัว

ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายพลกฤตได้ให้ญาติติดต่อเข้ามอบตัวกับทหารในพื้นที่ โดยมีเงื่อนไขขอให้ตำรวจที่เฝ้าอยู่ในพื้นที่ ถอนกำลังออกไปให้หมด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารรับมอบตัวนายพลกฤตบริเวณชายป่าอ้อยใกล้บ้านภรรยาผู้ต้องหา และนำตัวไป ควบคุมไว้ ที่กองพันทหารราบที่ 23 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา ก่อนที่ทหาร ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 และชุดสืบสวนจากกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัด พระนครศรีอยุธยา จะร่วมกันสอบปากคำ

ผู้ต้องหาสารภาพว่า ฆ่าน้องพลอยตั้งแต่วันแรกที่อุ้มเธอขึ้นรถ
และเผาอำพรางศพของเธอ ที่ อำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี แต่จำไม่ได้ว่าตรงไหนแน่

การเริ่มค้นหาศพ จึงเริ่มมีความหวัง

ภาพจากอีจัน
ก่อนที่จะไปค้นหาศพ ตำรวจค้นสำนวนเก่าตรวจสอบศพไร้ญาติ ปรากฏว่า เคยมีคนพบศพในบริเวณนั้น เมื่อปี 2557 ทางท่านศรีวราห์ ก็สั่งว่าในช่วงที่เกิดเหตุประมาณ ปี 2557 มีการ พบศพใน พื้นที่บ้างหรือไม่ ตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง ก็ไปค้นหา สำนวนเก่าๆดู ก็ปรากฏว่าในบริเวณ ที่ผู้ต้องหา ให้ปากคำ ก็มี อยู่รายหนึ่ง เป็นโครงกระดูก พบเมื่อเดือน พย. 2557 โดยชาวบ้านไปเจอ ถูกทำเป็นสำนวนศพ ไร้ญาติ ก็ตามหาว่าเป็นใคร จนตรงกับ คำรับของผู้ต้องหา ซึ่งตรงกับสำนวนของ สภ.หินซ้อนย้อนไปเมื่อวันที่ 5 พ.ย.2557
มีคนแจ้งคนหายในย่าน อำเภอแแก่งคอย
อาสากู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง แก่งคอยเดินค้นหาที่ ป่าข้างทางแห่งนี้ และพบโครงกระดูกถูกเผาเข้า โดยบังเอิญ ก็พบเศษยาง เศษกระดูก และเหล็กดัดฟัน
ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน
ตำรวจจึงเร่งตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ และเมื่อผลเบื้องต้องออกมาว่า ตรงกัน ก็ถึงเวลาต้องแจ้งข่าวร้าย ท่านศรีวราห์ถามแม่น้องพลอยว่า“ น้องพลอยใส่ เหล็กดัดฟันสีฟ้าไหม
เข็มขัดเป็น สี่เหลี่ยมไหม”
เมื่อแม่ยืนยัน ในที่สุด การเดินทางตามหาลูกสาวยาวนานถึง 3 ปี ก็สิ้นสุดลง ตำรวจและแม่พบน้องพลอยแล้ว เธอถูกฆ่าเผาอำพรางในป่าข้างทางบริเวณเชิงเขากบฏ ถนนบริเวณถนนสายแก่งคอย-แสลงพัน หมู่ 2 ต.หินซ้อน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เมื่อ 3 ปีก่อนวันสังหาร…น้องพลอย จากคำสารภาพของ “เอส” วันที่ 21 พฤษภาคม 2557 เอสพาตัวพลอยขึ้นรถเก๋งสีดำ นำรถจักรยานที่น้องพลอยขี่มาจากโรงงานใส่หลังรถ เอสอ้างว่า ได้บอก ให้พลอยหนีตามไป กับตน แต่…พลอยไม่ยอม ระหว่างนั้น…แม่น้องพลอยโทรตามหลายครั้ง เอสโมโห จึงโยนโทรศัพท์ของพลอยทิ้ง ทั้งสองเริ่มทะเลาะกันรุนแรง พลอยใช้มีดพับเล็กที่ติดอยู่กับกรรไกรตัดเล็บแทง เอส ที่แขน เอส ยิ่งโกรธตบตีพลอยอย่างรุนแรง และ บีบคอจนพลอย…ถึงแก่ความตาย
ภาพจากอีจัน
จากนั้น…เอสก็คิดอำพรางศพ เขาขับมุ่งหน้า อำเภอพระพุทธบาท
วิ่งถนนพหลโยธินเข้าอำเภอเมืองลพบุรี ผ่านแยกเอราวัณ วิ่งตามถนนสายคันคลองมุ่งหน้าอำเภอโคกกระเทียม นำจักรยานของผู้ตายทิ้งตรงสะพานข้ามคลองชลประทานที่ 23 แล้วเลี้ยวขวาออกไปยังศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายพหลโยธินอ.เมือง จ.ลพบุรี แล้วนำกระเป๋าทรัพย์สินของผู้ตายไปทิ้งถังขยะ ส่วนนาฬิกาข้อมือของผู้ตายได้โยนทิ้งข้างทาง ต่อมาเอส กลับเข้าไป บ้านพักของพ่อในศูนย์การทหารปืนใหญ่ ค่ายพหลโยธิน อ.เมือง จ.ลพบุรี นำยางรถยนต์ที่ใช้แล้วซึ่งวางอยู่หน้าบ้านพัก จำนวน 3 เส้นขึ้นท้ายรถ ขับรถออกมาจากค่ายซื้อน้ำมันดีเซลใส่แกลลอน 2 แกลลอน มุ่งหน้าไปอำเภอแก่งคอย เอส..จำได้ว่านำศพไปเผาทิ้ง ตรงทางขึ้นเขากบฏเลยศาลข้างทางประมาณ 600 เมตร
ภาพจากอีจัน
เขาจอดรถข้างแบริเออร์ เดินอุ้มศพพลอย เข้าป่า ลึกประมาณ 10-15 ก้าว นำยางรถยนต์ 3 เส้นวางกับพื้น นำศพซึ่งห่อด้วยผ้าห่มราดน้ำมันจุดไฟเผา แล้วขับรถหลบหนี โดยไม่ได้รอ จนไฟดับ หลังเกิดเหตุ เอสหลบหนีมาอยู่จังหวัดนครราชสีมา เช่าห้องอยู่…คนเดียว ไม่ติดต่อใคร มีเงินติดตัว 1 แสนบาท ซึ่งได้จากการกู้ และต่อมาจึงได้ไปทำงานที่บาร์ ในพัทยา มีการศัลยกรรมใบหน้า มีภรรยาใหม่ และมีลูกสาว 1 คน ต่อมา ความลับที่เก็บงำไว้ ก็ถูกเผยออกเอสถูกจับกุมในที่สุด 16 สิงหาคม 2560 ทหารจากกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 นำตัวนายพลกฤตมาส่งมอบให้ตำรวจที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีในข้อหาฆ่าน้องพลอย โดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รองผบ.ตร. เป็นผู้รับมอบตัวผู้ต้องหาด้วยตนเอง ขณะที่แม่ของน้องพลอย จะได้เห็นหน้า ผู้ต้องหาครั้งแรกในรอบ 3 ปี
ภาพจากอีจัน
แม่น้องพลอยชี้ตัวผู้ต้องหา ที่เธอจำได้แม่นยำ เอสกราบเท้าขอขมาแม่ของน้องพลอย
ภาพจากอีจัน
แม่เปิดประเด็นที่ยังเป็นข้อกังขา แม่ไม่เชื่อว่า เอส ลงมืออุ้มน้องพลอยเพียงคนเดียว แม่มั่นใจว่า ต้องมีคนอื่นร่วมมือด้วย “ความจริงหนีความจริงไม่พ้น ถ้ามึงรักน้องจริง ถ้าเป็น ลูกผู้ชายจริง มึงต้องบอกว่าใคร มีส่วนช่วยวันนั้น ” ไม่มีคำตอบจาก ชายคนนี้วันนี้ 5 ก.ค. 2561 ศาลจังหวัดสระบุรี มีคำพิพากษาจำคุก สิบเอกพลกฤต วิเศษ 33 ปี 11 เดือน