สภ.กาฬสินธุ์ เร่งขยายผลคดี อุ้มสาวทวงหนี้ คาดเอี่ยวเครือข่ายยาเสพติด

สภ.กาฬสินธุ์ ขยายผลคดีอุ้มสาวทวงหนี้ผู้เสียหาย มีเอี่ยวเครือข่ายยาเสพติด

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 ก.ค.61 ที่ผ่านมา มีคนร้าย ขับรถเก๋งปาดหน้าคู่กรณีซึ่งเป็นรถเก๋งอีกคัน ก่อนมีชายฉกรรจ์สองคนลงไปทุบกระจกรถ พร้อมฉุด น.ส.เอ (นามสมมุติ) กระชากลากขึ้นรถเพื่อเรียกค่าไถ่ 350,000 บาท

ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน สภ.กาฬสินธุ์ สามารถจับกุมคนร้ายได้ 3 คน เเละวันที่ 13 ก.ค. 61 คนร้ายที่เหลืออีก 2 คนก็ได้เข้ามามอบตัวต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมทั้งปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ล่าสุดวันนี้(16 ก.ค.61) พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เป็นคดีที่อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คนร้ายก่อเหตุใกล้กับจวนผู้ว่าฯ อย่างไม่เกรงกลัว ถึงแม้จะจับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว แต่เมื่อตำรวจได้มีการขยายผล พบว่า คดีนี้ผู้เสียหายอาจตกเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดซะเอง

ขณะนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ชาตรี ปรีชากุล รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ซึ่งดูแลในเรื่องงานสอบสวน ให้เกาะติดและช่วยเหลือในการประสานงานเพื่อการขยายผลร่วมกับทาง สภ.เมืองมหาสารคาม ในการสืบหาข้อเท็จจริง ไปยังเครือข่ายค้ายาเสพติด

ภาพจากอีจัน


พล.ต.ต.มนตรี เผยว่า คดีนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนและการรวมรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะที่ไปที่มาของเงิน เนื่องจากผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นเพียงผู้รับจ้างมาทวงเงินจาก นส.เอ และได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน 10,000 บาทเท่านั้น แต่หลังจากที่ทำการขยายผลไปเเล้ว ตำรวจได้ไปที่ห้องพักของ นส.เอฯ ปรากฏว่าพบยาบ้าจำนวน 4 พันเม็ด ขณะนี้ สภ.เมืองมหาสารคาม กำลังทำการขยายผล

ภาพจากอีจัน


สำหรับคดีนี้มีรายงานจากแหล่งข่าวระดับสูงเกี่ยวกับการเชื่อมโยงไปถึง กระบวนการค้ายาของเครือข่ายยาเสพติด

ซึ่งข้อมูลตรงกับตำรวจภูธรภาค 4 ว่า เครือข่ายค้ายาเสพติด ได้ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า มันทุกเม็ด เป็นเเหล่งกระจายยาบ้าในแถบภาคอีสานและเป็นองค์กรใหญ่ จะทำการกระจายยาบ้าไปตามกลุ่มนักเสพหน้าใหม่ในชุมชนและหมู่บ้าน เหมือนทำเป็นร้านเซเว่น

เพื่อให้เครือข่ายของตนที่รับยาบ้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเจ้าเดียวในการค้ายาบ้า และการจับกุมในครั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า นส.เอ นามสมมุติ ผู้เสียหาย ซึ่งถูกกระชากหัวนั้น ยังเป็นบุตรสาวนายตำรวจใหญ่ในภาค 4 ด้วย