หลังเกิดประเด็นดราม่าเกี่ยวกับวงการกีฬาตะกร้อ เมื่อ ตุ๊ก ธิดาวรรณ ดาวสกุล อดีตนักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ และซีเกมส์หลายสมัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความแฉเกี่ยวกับกรณีโดนสต๊าฟฟ์โค้ชเรียกรับส่วนแบ่งจากเงินอัดฉีดของนักกีฬา เพื่อแลกกับการได้ติดทีมเพื่อลงแข่งขันทีมหญิง ในกีฬาเอเชียนเกมส์ 2010 หรือเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน จนกลายเป็นเรื่องดราม่าที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง
ล่าสุด วันที่ 7 พ.ย. 66 พ.ต.ท. สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักตะกร้อชายทีมชาติไทย ปัจจุบันเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารสมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยอดีตนักกีฬาตะกร้อทีมชาติอย่าง สุริยัน เป๊ะชาญ, พูลศักดิ์ เพิ่มทรัพย์ และ สมพร ใจสิงหล ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการทีมตะกร้อชุดปัจจุบัน ได้แก่ ผู้จัดการทีม และผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมชาติไทย ที่มีการเรียกรับเงินจากนักกีฬาทั้งในอดีตและปัจจุบัน เพื่อให้ช่วยตรวจสอบความโปร่งใสในการทำงาน โดยมีนายบุญชัย หล่อพิพัฒน์ อุปนายกสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย เป็นผู้ออกมารับหนังสือดังกล่าว
พ.ต.ท. สืบศักดิ์ เผยว่า “วันนี้ผมมาเป็นตัวแทนนักกีฬาที่ออกมาพูดแทนอดีตนักกีฬาทีมชาติ และทีมชาติปชุดปัจจุบัน ซึ่งไม่กล้าที่จะออกมาบอกถึงเรื่องราวนี้ เพราะจะมีผลต่อการเก็บตัวในรายการหน้า ด้วยความสนิทส่วนตัวกับน้องๆ ก็จะมีการให้ข้อมูลในแชทไลน์ มีช่องทางการเงิน การโอนเงินให้ใครบ้าง ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน เราอยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการ เพราะผู้ฝึกสอนและสมาคมฯ ก็มีส่วนแบ่งจากรัฐบาลอยู่แล้ว เช่น เอเชียนเกมส์ครั้งที่ผ่านมา สตาฟฟ์โค้ชก็ได้เงินอยู่แล้ว 5.8 ล้านบาท
ส่วนนักกีฬาทีมชาติไทย ที่คว้ามาได้ 4 เหรียญทอง ในเอเชียนเกมส์ที่หางโจว นักกีฬาทีมชุดจะได้เงินคนละ 2 ล้านบาท ส่วนนักกีฬาที่แข่งทีมเดี่ยวจะได้ 4 ล้านบาท เงินทั้งหมดรวมคือ 34 ล้านบาท เป็นทีมชุด 24 ล้านบาท ทีมเดี่ยว 10 ล้านบาท แต่ปรากฏว่ามีการหักเงินนักกีฬา นักกีฬาที่แข่งทั้งแบบชุดและเดี่ยวได้เงินเพียง 2.1 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าถูกหักไปเกือบ 50% โดยอ้างว่าเป็นการหักเงินเพื่อไปให้นักกีฬาที่ไม่ติดทีมชาติ แต่ตรงนี้เงินก็ยังหายไป 3.3 ล้านบาท ส่วนทีมหญิงเงินหายไป 6.75 ล้านบาท ผมว่าเยอะมาก
นักกีฬาจะได้รับเงินโอนมาจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และจะมีวิธีหักเงิน 2 วิธีคือ ให้โอนเงินหักไปยังตัวพักเงิน ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาคนหนึ่ง ก่อนจะโอนให้ผู้ใหญ่คนหนึ่ง ส่วนอีกวิธีคือให้เบิกเงินสดมาทั้งหมดและไปนัดพบกันที่ร้านอาหาร และหักเงินกันตรงนั้น ซึ่งทั้งสองวิธีนั้นทำเพื่อไม่ให้มีหลักฐาน แต่ทุกวันนี้น้องนักกีฬาชุดปัจจุบันพร้อมให้ข้อมูล เพียงแต่ไม่มีใครกล้าพูด
ในอดีต นิตินัดดา แก้วคำไสย์ นักกีฬาหญิงตะกร้อหญิงที่เก่งมาก พอพ่อของเขาออกมาพูดเรื่องนี้ จากนั้นก็หลุดทีมชาติไปเลย ส่วนอีกคนอย่าง ปูดำ พิกุล สีดำ เป็นนักกีฬาเหรียญทองซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ ก็เคยพยายามเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องเงินรางวัล แต่เขาก็ถูกตัดออกจากทีมชาติไปเลย จนปัจจุบันต้องออกไปเก็บผลไม้หาเลี้ยงชีพอยู่ที่เกาหลี ซึ่งผมมองว่านักกีฬาที่เล่นเพื่อชาติไม่ควรจะต้องลงเอยแบบนี้”
สารวัตรโจ้ทิ้งท้ายว่า ผมหวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการพิจารณาจาก คณะกรรมากรดำเนินงานเตรียมทีมชาติ และหวังว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบ ปัญหาเป็นสิบปีที่ผ่านมา และอยากให้มีการยุติการแต่งตั้งคณะกรรมการทีมชาติก่อน เพื่อให้น้องๆได้พูด ให้ได้คำตอบภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนน้องๆนักกีฬานั้น พี่อยากให้ออกมาพูด พี่ช่วยได้เท่านี้ ถ้าน้องไม่พูด เท่ากับสนับสนุนระบบนี้ และนักกีฬาในอดีตทุกคนควรจะได้รับเงินที่ควรจะเป็นของพวกเขาคืนด้วย
ทั้งนี้ ก่อนถึงวันเดินทางมายื่นหนังสือ สารวัตรโจ้ พ.ต.ท. สืบศักดิ์ ผันสืบ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังมีผู้โทรมาข่มขู่ ว่า
มาข่มขู่ ว่าให้ระวังกระทบหน้าที่การงาน
ไม่ต้องโทรมาแล้วนะครับ
ผมแค่จะไปยื่นหนังสือ จากน้องๆทีมชาติ ไปส่งผู้แทนสมาคม เฉยๆ
อย่ากังวลกันครับ
#ทำสิ่งที่ถูกต้อง
#ไม่ได้ทำอะไรผิดก็อย่าไปกลัว