ภูเก็ตยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง วันนี้เพิ่มใหม่ 3 ราย

ภูเก็ตพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่วันนี้ 3 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง

วันนี้(2 พ.ค. 63) เพจ ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต ได้อัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 2 พ.ค. 2563 ว่า จังหวัดภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 220 ราย รายใหม่เพิ่ม 3 ราย โดยผู้ติดเชื้อได้รับอนุญาต ให้กลับบ้าน 177 ราย (ไม่มีกลับบ้านเพิ่ม) เสียชีวิต 2 ราย จำหน่าย 1 ราย (จำหน่าย เนื่องด้วยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์) กำลังรักษาอยู่ รพ. 41 ราย ในจำนวนนี้ อาการรุนแรง 1 ราย ที่เหลืออาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

สำหรับผู้ติดเชื้อยืนยันโรคโควิด-19 รายใหม่ 3 ราย มีรายละเอียดดังนี้

1. รายที่ 218 หญิงไทย อายุ 58 ปี อาชีพแม่บ้าน อาศัยอยู่ในพื้นที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่บางเทา พบจากการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ ปัจจุบันไม่มีอาการป่วย

2. รายที่ 219 ชายไทย อายุ 48 ปี อาชีพค้าขาย อาศัยอยู่ในพื้นที่บางเทา มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง พบจากการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ ปัจจุบันไม่มีอาการป่วย

3. รายที่ 220 หญิงไทย อายุ 21 ปี อาชีพพนักงานร้านสะดวกซื้อในพื้นที่บางเทา อาศัยอยู่ในพื้นที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง พบจากการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ ปัจจุบันไม่มีอาการป่วย

ทั้งนี้ทีมงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการสอบสวน ควบคุม ป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 ที่พบเพิ่มในวันนี้ ทั้งหมดพบจากการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง ซึ่งปัจจุบันไม่มีอาการป่วย และมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันในพื้นที่บางเทา ต.เชิงทะเล อ.ถลาง รายก่อนหน้านี้มาก่อน ทั้งนี้ในช่วงถือศีลอดอยากจะเน้นย้ำเรื่องการปฏิบัติตัวโดยเฉพาะการงดกิจกรรมรวมตัวทั้งในมัสยิดและสถานที่อื่น อยู่แต่ในที่พักอาศัยและสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา การรับประทานอาหารละศีลอดควรทานในบ้านและห่างกันมากกว่า 1 เมตรและงดการพูดคุยกัน เน้นย้ำ เรื่องมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมถึงแม้จะไม่มีอาการป่วย ก็ต้องแยกตัวเองออกจากบุคคลอื่น งดรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็น ไม่เข้าไปที่ชุมชน ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์บ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่บุคคลที่เรารัก และถ้าหากมีอาการไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ เหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ปวดศีรษะหรือ ถ่ายเหลว ให้รีบไปพบแพทย์