จุรินทร์ ปลื้ม! ผู้สร้างหนังสหรัฐฯ ร่วมลงทุนไทย สร้างอินทรีแดง 2024

จุรินทร์ บินร่วมงานอเมริกันฟิล์ม พร้อมร่วม MOU สร้างอินทรีแดง 2024

วันที่ 2 พ.ย. 65 (ตามเวลาท้องถิ่น ประเทศสหรัฐอเมริกา) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมงาน American Film Market & Conference (AFM) 2022 และร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือ (MOU) ระหว่างบริษัท Epic Pictures Group ของสหรัฐฯ กับบริษัท ฮอลลีวู้ด (ไทยแลนด์) ของไทย

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในวันนี้มีกิจกรรมสำคัญคือ กิจกรรม งานไทยไนต์ (Thai Night) ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพเชิญผู้สร้างหนัง ผู้กำกับภาพยนตร์ และผู้ที่อยู่ในวงการภาพยนตร์ไทย ให้มีโอกาสพบกับผู้ประกอบการภาพยนตร์ของต่างประเทศ 250 ราย จากหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งงานนี้ได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธาน

รวมถึงงาน American Film Market 2022 (AFM 2022) ที่ลอสแอนเจลิส ถือเป็นงานใหญ่ 1 ใน 4 งาน ภาพยนตร์ของโลกงานที่ใหญ่สุด คือ งาน Cannes Film Festival ที่เมืองคานส์, Hong Kong International Film Festival ที่ฮ่องกง, Busan International Film Festival ที่เกาหลี และงานนี้ใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของโลก พาผู้ประกอบการภาพยนตร์และผู้ประกอบการธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ เช่น การตัดต่อหรือดึงผู้ถ่ายทำภาพยนตร์ไปถ่ายทำในประเทศไทย ซึ่งมีกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมงานครั้งนี้ด้วย มีบริษัทภาพยนตร์จากประเทศไทยมาร่วม 8 บริษัท มีการซื้อขายภาพยนตร์ให้กับชาวต่างประเทศด้วย ซึ่งคาดว่าเที่ยวนี้จะสามารถทำรายได้จากการขายภาพยนตร์และบริการที่เกี่ยวข้องประมาณ 800 ล้านบาท และกิจกรรมนำผู้สร้างหนังจากต่างประเทศร่วมทุนกับผู้สร้างหนังในประเทศไทย มีการลงนามกันระหว่างบริษัท Epic Pictures Group ของสหรัฐฯ กับ บริษัท ฮอลลีวู้ด (ไทยแลนด์) ของไทย ซึ่งทั้ง 2 บริษัทมีผลงานสร้างภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงหลายเรื่อง ซึ่งจะร่วมทุนกันสร้างหนัง “อินทรีแดง 2024” โดยลงทุนร่วมกันประมาณ 200 ล้านบาท

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า งานนี้จะเกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ทั้ง 2 ด้านคือ

1.ดึงผู้สร้างภาพยนตร์จากต่างประเทศมาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย จะมีส่วนขายซอฟต์พาวเวอร์ของไทยไปต่างประเทศด้วย เช่น สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ศิลปะวัฒนธรรม วิถีชีวิตสอดแทรกลงไปในนั้น ให้ชาวต่างประเทศรู้จักประเทศไทยมากขึ้น

2.ภาพยนตร์ที่สร้างในไทยรัฐบาล พร้อมสนับสนุน โดยเฉพาะการดึงผู้สร้างหนังจากต่างประเทศมาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย

“ถ้าสอดแทรกซอฟต์พาวเวอร์ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตของไทย จะเป็นเรื่องที่ดีรัฐบาลส่งเสริมเรื่องนี้ และที่สำคัญถ้าต่างประเทศมาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อไม่กี่วันมานี้ ช่วยสนับสนุนให้เกิดแรงจูงใจสำหรับผู้ที่มาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศ โดยนำเงินเข้ามาใช้จ่ายในเมืองไทย ถ้าจ่ายให้คนไทยไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล สามารถนำรายจ่ายมาแจ้งให้รัฐบาลคืนกลับเป็นเงินให้บริษัทนั้นสูงสุดถึง 20% ซึ่งเราถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งมีคนมาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยมาแล้วกว่า 700 เรื่องและปีที่แล้ว 122 เรื่องที่มาถ่ายทำในประเทศไทย” นายจุรินทร์กล่าว

ขณะที่ คุณวสันต์ หอมแสงประดิษฐ์ CEO บริษัท ฮอลลีวู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด เผยว่า ตอนนี้เรายกโปรเจ็กต์อินทรีแดง ขึ้นมา โดยจะเป็นการกลับมาในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ซึ่งทางบริษัท Epic Pictures Group ของสหรัฐฯ ยินดีที่จะช่วยร่วมทุน ช่วยเอื้อเฟื้อการถ่ายทำ รวมถึงจะให้ดาราฮอลลีวูดบางคนมาเล่นด้วย

ที่เลือกอินทรีแดงเพราะว่าก่อนหน้านั้นภาพยนตร์เรื่ององค์บาก ต้มยำกุ้ง ดังไกลทั่วโลกมาแล้ว แต่เราไม่เคยเห็นภาพของซูเปอร์ฮีโร่ไทย ตนมองว่าด้วยยุคสมัย ถ้าบอกว่าคนคนหนึ่งมาเตะต่อยกับอีกคนคนหนึ่ง คนก็จะดูไม่น่าเชื่อ แต่ถ้าเป็นซูเปอร์ฮีโร่ เหมือนที่เราเคยเห็นกันในหนังต่างประเทศก็จะเป็นอะไรที่น่าสนใจ คำว่าซูเปอร์ฮีโร่เอเชีย หรือ ซูเปอร์ฮีโร่ไทยแลนด์ มันต้องมี

ส่วนในเรื่องของกระแสความนิยมหนังไทยในต่างประเทศก็ขึ้นอยู่กับว่า เป็นชาติไหน ถ้าหากว่าเป็นชาติรอบข้างบ้านเรา จะเป็นในส่วนของโรแมนติกคอมเมดี้ ซีรีส์วาย แต่ถ้าหากเราเลือกในฝั่งยุโรปหรืออเมริกา แน่นอนว่าสิ่งที่พูดมาก่อนหน้านี้มันยังไม่ถึง เพราะเขาจะเน้นภาพยนตร์ที่เป็นภูตผีปีศาจ สยองขวัญ

คุณวสันต์ บอกอีกว่า ตนมองว่าหนังไทย ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ก้าวกระโดดในตัวของมันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราจะทำหนังให้เป็นที่ต้องการของยุโรปและอเมริกายังไง เราจะใส่ความเป็นไทยลงไปยังไงในภาพยนตร์ ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าหากดูหนังเกาหลีเวลากินข้าวเขาก็จะกินพวกปิ้งย่าง หรือโซจู ส่วนอินทรีแดงที่เป็นโปรเจ็กต์ที่เรากำลังจะทำ นอกจากศิลปะการต่อสู้ที่เราจะสอดแทรกเข้าไปแล้ว ก็จะต้องมาดูในเรื่องของบทอีกว่าจะสามารถสอดแทรกความเป็นไทยอะไรเข้าไปได้อีก เช่นสมมติว่าจะชูผ้าไทย ทุกคนต้องห่มผ้าไทย แต่ก็อาจจะต้องมาประยุกต์กันอีกทีหนึ่ง

วันนี้ที่ได้มีการทำ MOU กันก็ดีใจที่ทางกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลตลาดภาพบนตร์ ซึ่งซอฟต์พาวเวอร์จริงๆ ของไทย นำหน้าไปก่อนประเทศอื่นบางประเทศด้วยซ้ำ ก็จะต้องมารอดูต่อว่า หลังจากนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทย จะก้าวกระโดดไปได้ไกลกว่าเดิมมากน้อยแค่ไหน

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้นำผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ จำนวน 8 บริษัท เข้าร่วมงานประกอบด้วย Benetone Films , Film Frame Productions , GDH 559 , Hollywood (Thailand) , Kantana Sound Studio , M Pictures , Right Beyond และ Sahamongkolfilm International โดยนำคอนเทนต์ที่โดดเด่นกว่า 50 ผลงานเข้าร่วมนำเสนอ อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง Haunted Dormitory , Home For Rent , 5th Round , Faces of Anne , Immortal Species และ Khun Pan 3

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้มีการประชาสัมพันธ์ซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร โดยนำอาหารไทยมาเลี้ยงรับรองแขกต่างชาติที่มาร่วมงาน โดยมีเมนูอาทิ ลาบทอด ไก่สะเต๊ะ หมูพะโล้ แกงเขียวหวานไก่ กุ้งผัดผงกะหรี่ ผัดกะเพราเห็ด ข้าวยำเนื้อย่าง ถุงทอง หอยนางรมสด สลัดกุ้งและเงาะ และข้าวเหนียวสังขยา เป็นต้น ซึ่งผู้เข้าร่วมงานต่างชื่นชอบอาหารไทยที่นำมาจัดเลี้ยงภายในงานเป็นอย่างมาก

คลิปอีจันแนะนำ
ทำการบ้านรอพ่อ หน้าเมรุ!