จากกรณีที่ นายกฤษณะโชค ชัยขนะ หรือ โอเล่ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้าย น.ส.อภิญญา หรือ น้องบุ๋ม อายุ 21 ปี จนเสียชีวิต ก่อนนายโอเล่จะกินยาฆ่าตัวตาย แต่ทางแพทย์ช่วยไว้ได้ทัน จนอาการปลอดภัย นั้น
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่
- ผัวโหด ซ้อมเมียช้ำทั้งตัวจนตาย
- จับแล้ว! "โอเล่" ผัวโหดซ้อมเมียตาย
- ยังไม่ฝากขังโอเล่ ผัวโหดซ้อมเมียจนตาย
ล่าสุดวันนี้ 11 ก.ย. 62 ที่ สน.เพชรเกษม ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมครอบครัวของ น.ส.อภิญญา เกษมศักดิ์ หรือ น้องบุ๋ม เดินทางเข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติม ขอให้มีการแจ้งความข้อหาเอาผิดข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย ซึ่งมีอัตราโทษประหารสถานเดียว
ภาพจากอีจัน
ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้นำหลักฐานที่เป็นคลิปจากโทรศัพท์มือถือของ นายกฤษณะโชค ซึ่งเป็นคลิปขณะที่ทั้งคู่มีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งมีลักษณะข่มขู่ด้วย จึงคิดว่า คลิปดังกล่าวนี้ นายกฤษณะโชค ใช้สำหรับข่มขู่ไม่ให้ น.ส.อภิญญา เลิกรากับตนเองไป จึงมาแจ้งข้อหาเพิ่มเพราะน้องโดนกระทำอย่างต่อเนื่องมายาวนาน
ภาพจากอีจัน
ด้าน นายปวินท์ เกษมศักดิ์ พี่ชายน้องบุ๋ม กล่าวว่า เมื่อวานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแบ่งทรัพย์สินกัน ซึ่งเราจำได้ว่าน้องมีโทรศัพท์ 3 เครื่อง แต่ว่าไม่รู้ว่ามือถือนั้นอยู่ที่ไหน จนกระทั่งตำรวจเอามามอบให้เรา เราก็กำลังตรวจสอบมือถืออยู่ เพราะว่ามันมีรูปส่วนตัวของน้อง ที่ไม่อยากเปิดเผยอะไร จึงได้ลบ แต่ว่ามีมือถือเครื่องหนึ่ง ที่ทางครอบครัวของฝั่ง นายกฤษณะโชค ต้องการจะเอามือถือเครื่องนั้นคืน ตนเลยรู้สึกเอะใจว่าทำไมถึงอยากได้คืนนัก ตนเลยเปิดดูว่าในโทรศัพท์เป็นยังไงบ้าง
พอเปิดมือถือไป ก็เห็นว่ามีคลิปที่นายกฤษณะโชค ใช้แบล็คเมล์น้องสาวตนถูกลบทิ้งอยู่ในไฟล์ถังขยะ และมีบางไฟล์ที่ยังไม่ได้ลบด้วย เมื่อเราเปิดดูก็เห็นว่าเป็นคลิปที่มีบางถ้อยคำที่มีการง้องอน และข่มขู่กันบ้าง ตนจึงเข้าใจว่าคลิปนี้นายกฤษณะโชคน่าจะเก็บไว้แบล็คเมล์ไม่ให้น้องหนีไปไหน นี่คือสาเหตุที่อาจจะทำให้น้องหนีไปได้แค่ 2-3 วัน ก็กลับมาหากันอีก ทางครอบครัวคิดว่าทางฝั่งของนายกฤษณะโชค น่าจะทราบว่ามีคลิปนี้อยู่ จึงได้พยายามขอเอามือถือไป
ภาพจากอีจัน
“ทางครอบครัวอยากให้มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะอยากรู้ว่าเขาทำอะไรกับน้องเราบ้าง น้องคบกันมาประมาณ 2 ปี แล้ว ไม่เคยพามาเปิดตัวเลย เพราะทางครอบครัวไม่อยากจะคุยด้วย เนื่องจากว่าเราเคยเห็นเค้าคบกับแฟนเก่า แล้วก็ทุบตีเหมือนกัน แล้วหนีออกมาได้ แต่น้องของเราหนีไม่ได้ เราอยากให้ตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ตามกฎหมายมาตรา 289(5)" นายปวินท์ กล่าว
ด้าน นางวรรณพร แม่น้องบุ๋ม ได้พูดออกมาว่า มีความเป็นคนอยู่บ้างไหม ทำไมถึงทำได้ขนาดนี้ อยากให้ตายแบบทุกข์ทรมาน
ภาพจากอีจัน
ขณะที่ พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.เพชรเกษม กล่าวว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำ นายกฤษณะโช รับสารภาพว่าทำร้ายร่างกายน้องบุ๋ม เพราะว่าหึงหวง เบื้องต้นแจ้งข้อหาผู้ต้องหาแล้ว ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย แต่หากว่าทางครอบครัวของผู้ตายนำหลักฐานมามอบให้กับตำรวจ ก็จะมีการพิจารณาอีกครั้ง ว่าสามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้หรือไม่ และจากประวัติที่ผ่านมา ผู้ต้องหาเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติด เมื่อปี พ.ศ.2551 มาแล้ว
ภาพจากอีจัน
ขณะที่อาการของผู้ต้องหาตอนนี้ทางโรงพยาบาลได้ประสานมาว่าอาการดีขึ้น แพทย์อายุรกรรมตรวจสอบแล้วไม่น่าจะมีอะไรวิตกกังวลสามารถออกจากโรงพยาบาลภายได้ พนักงานสอบสวนจึงคุมตัวนายกฤษณะโชคไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัว ซึ่งขณะที่ตำรวจ สน.เพขรเกษม เดินทางมารับตัวนายโอเล่ไปฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี นายโอเล่ได้กล่าวว่า "ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่ได้ใช้เหล็กแทงอวัยวะเพศของน้องบุ๋ม แต่ยอมรับว่าใช้ทุบตีจริง เพราะทะเลาะกันมานาน"