คนไทยอ่านหนังสือ วันละ 1.32 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 9.24 ชั่วโมง เบอร์ 2 โลก

ไทยเบอร์ 2 ของโลก ประเทศที่ใช้เวลาอ่านหนังสือมากที่สุด สัปดาห์ละ 9.24 ชั่วโมง หรือ 488.8 นาทีต่อปี แพ้แค่ ‘อินเดีย’ ที่อ่านสัปดาห์ละ 10.42 ชั่วโมง หรือ 556.4 นาทีต่อปี

เตรียมลบความจำ คำกล่าวที่ว่า “คนไทยอ่านหนังสือปีละไม่เกิน 8 บรรทัด” ได้เลย เพราะจากการจัดอันดับประเทศที่มีค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือ ซึ่งอาจรวมถึงสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ปี 2023 โดย World Population Review พบว่า 5 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย ไทย จีน ฟิลิปปินส์ และอียิปต์

เวลาที่ใช้ในการอ่าน (รายงานปี 2017-2022)

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวเป็นของปี 2017 และหลายแหล่งยังคงรายงานข้อมูลเดียวกันนี้ในช่วงปลายปี 2022

1.อินเดีย ใช้เวลาอ่านประมาณ 10 ชั่วโมง 42 นาทีต่อสัปดาห์ ซึ่งเท่ากับ 556.4 นาทีต่อปี

2.ไทย อัตราการอ่านรายสัปดาห์รวม 9 ชั่วโมง 24 นาที หรือประมาณ 488.8 นาทีต่อปี

3.จีน อ่าน 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์หรือ 416 นาทีต่อปี

4.ฟิลิปปินส์ อ่านเนื้อหา 7 ชั่วโมง 36 นาทีต่อสัปดาห์ ซึ่งเท่ากับ 395.2 นาทีต่อปี

5.อียิปต์ ใช้เวลา 7 ชั่วโมง 30 นาทีต่อสัปดาห์หรือ 390 นาทีต่อปี

ประเทศที่อ่าน (และซื้อ) หนังสือมากที่สุด

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนใหญ่เกี่ยวกับประเทศที่อ่านหนังสือมากเมื่อปี 2017 แต่บางส่วนมาจากต้นปี 2011 เพราะรายงานใหม่หลังปี 2020 ยังไม่ได้เผยแพร่

1.สหรัฐอเมริกา อ่านประมาณ 275,232 ต่อปี หรือคิดเป็น 30% ของส่วนแบ่งการตลาดของผู้ซื้อหนังสือ

2.จีน อ่านหนังสือเฉลี่ย 208,418 เล่มต่อปี หรือคิดเป็น 10% ของหนังสือทั้งหมดที่ซื้อ

3.สหราชอาณาจักร อ่านประมาณ 188,000 ทุกปี ทั้งนี้ ยอดขายหนังสือในประเทศนี้ ยังสูงเป็นประวัติการณ์อย่างน้อย 212 ล้านเล่ม

4.ญี่ปุ่น อ่านหนังสือเฉลี่ย 139,078 เล่มต่อปี คิดเป็นประมาณ 7% ของส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมด

5.เยอรมนี แม้รายงานปี 2017 ไม่ได้ระบุว่า ประเทศนี้อ่านหนังสือกี่เล่ม แต่ระบุว่าประเทศนี้ซื้อหนังสือประมาณ 9% ของส่วนแบ่งการตลาดของโลก

นอกจากนี้ รายงานของ Pew Research ปี 2016 ยังระบุว่า สหรัฐอเมริกา อ่านหนังสือได้มากถึง 12 เล่มต่อปี และ 50% ของประเทศอ่านหนังสือได้ 4 เล่มหรือน้อยกว่านั้น และยังคงอ่านหนังสือกระดาษมากกว่าหนังสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) หรือหนังสือเสียง แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ส่วนอีก 50% ของชาวอเมริกันพบว่า อ่านหนังสือมากถึง 7 เล่มต่อปี และตัวเลขนี้ยังมีแนวโน้มมากขึ้น หากบุคคลอยู่ในโรงเรียนและได้อ่านหนังสือที่ได้รับมอบหมายโดยเฉพาะในวิทยาลัย ทั้งนี้ ในปี 2020 สื่ออิเล็กทรอนิกส์และสื่อสิ่งพิมพ์ ยังได้รับการยอมรับมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การอัปเดตข้อมูลนี้ในปี 2022 ระบุว่ามีเพียง 9% ของผู้คนเท่านั้นที่อ่านเฉพาะสื่อดิจิทัล และเมื่อหักจาก 23% ที่ไม่ได้อ่านหนังสือเลย ก็พบว่า ระหว่างการอ่านทั้งสิ่งพิมพ์และสื่อต่างๆ และอ่านเฉพาะหนังสือที่พิมพ์ออกมา มีสัดส่วนเท่าๆ กัน

ซึ่งหนังสือที่นิยมอ่านมากที่สุดตลอดกาล ได้แก่ 1.พระคัมภีร์ไบเบิล 2.อัลกุรอาน 3.วรรณกรรมเรื่องดัง Harry Potter 4.คำคมจาก The Quotations จากประธานเหมา เจ๋อ ตุง (อดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน) และ 5.ลอร์ด ออฟ เดอะ ริงส์

การอ่านหนังสือ ก็เหมือนการให้อาหารสมอง เพราะช่วยกระตุ้นให้สมองทำงานได้ดียิ่งขึ้น ไหนจะเป็นการเพิ่มทักษะการคิดวิเคราะห์ กระตุ้นความจำ ทำให้รู้สำนวนภาษาและคำศัพท์มากขึ้น ช่วยฝึกสมาธิ ลดความเครียด และเพิ่มความบันเทิงอีกด้วย ลองหาหนังสือดีๆ สักเล่ม สองเล่มมาอ่านกันนะ