สาวแฉพฤติกรรม ชายอ้างเป็นปู่ฤาษีอุดร หลอกทำพิธีเสริมเสน่ห์อนาจาร

สาวแฉชายอ้างเป็นปู่ฤาษีอุดร หลอกทำพิธีเสริมเสน่ห์ แชตถามอนาจาร ด้านปู่ฤาษีอุดร ปฏิเสธ เชื่อถูกกลั่นแกล้ง

จากกรณีหญิงสาว อายุ 32 ปี ชาว อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน ว่าถูกชายอ้างตัวเป็นปู่ฤาษีอุดร ติดต่อทางเฟซบุ๊ก อ้างว่าจะดูดวงและแก้กรรม มีการนำหลักฐานการแชตพูดคุยกันในไลน์ รวมถึงอ้างว่ามีการถ่ายภาพโป๊เปลือยส่งให้กัน และมีคลิปปู่ฤาษีอุดรช่วยตัวเอง ก่อนที่จะมีการนัดแนะไปทำพิธีเสริมดวงชะตาในอาศรมฤาษี แห่งหนึ่งใน ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ในช่วงเย็นของวันที่ 4 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา แต่ยังทำพิธีไม่เสร็จหญิงสาวรายนี้ได้ออกมามาจากอาศรม โดยมีพ่อหญิงสาวรายนี้ และผู้สื่อข่าว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ร่วมสังเกตการณ์ จนเป็นข่าวดังนั้น

ล่าสุดวันนี้(5 เม.ย. 66) ทีมข่าวเดินทางไปที่อาศรมของชายที่อ้างตนว่าเป็นปู่ฤาษีอุดร อยู่ที่ชุมชุมหนองเขื่อนฟ้า ม.14 ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พบกับ นายวีระยุทธ หรือปู่ฤาษีอุดร หรือฤาษีตั้ม อายุ 39 ปี เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยมีนางวารุณี อายุ 56 ปี แม่ของปู่ฤาษีอุดร และญาติ ร่วมให้ข้อมูล สภาพโดยรอบอาศรม เป็นเพิงไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง เปิดโล่ง ด้านในมีโต๊ะหมู่บูชา เต็มไปด้วยพระพุทธรูป และรูปปั้นฤาษี รูปปั้นกุมารทอง โดยมีการปูเสื่อไว้ตรงกลางโถง สำหรับประกอบพิธี และต้อนรับลูกศิษย์ที่ต้องการทำพิธีต่างๆ

โดยปู่ฤาษีอุดร หรือฤาษีตั้ม เผยถึงเรื่องราวที่เป็นข่าวว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 5 – 6 โมงเย็น หญิงสาวคนนี้ติดต่อขอให้ทำพิธีเสริมเสน่ห์มหานิยม โดยมีพิธีสวดตามหลักครูบาอาจารย์ ในจานพิธีขันธ์ห้ามีพระอีง่าง ตัวผู้ตัวเมีย เทียน ดอกพุทธ และค่าครู 300 บาท ตอนนั้นในอาศรมมีแม่และน้องสาวอยู่ด้วย ลูกหลานก็วิ่งเล่นอยู่ข้างนอก ตนเองรู้สึกมีพิรุธตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว เพราะหญิงคนนั้นก็มีอาการกระวนกระวาย บอกว่าร้อน และหิวข้าว อยู่ในที่แบบนี้ไม่ได้ อยากให้พาไปทำพิธีในรีสอร์ทที่มีห้องแอร์ ขณะกำลังทำพิธี ได้จุดเทียนพญานาคเพื่อเสี่ยงทาย ปรากฏว่าหยดน้ำตาเทียนขาดถึง 2 ครั้ง ซึ่งตนเชื่อว่าคนที่มาทำพิธีด้วยคิดไม่ดี หลังจากน้ำตาเทียนเส้นที่ 2 ขาด ก็มีคนเดินเข้ามาเรียกตัวออกไป และเกิดการโวยวายขึ้นมา จึงมีการโต้เถียงกันขึ้น ก่อนจะแยกย้ายกันไป

ปู่ฤาษีอุดร ยังบอกอีกว่า ตนเองเชื่อว่ามีกรรมที่ต้องชดใช้ ตั้งแต่มีเรื่องฟ้องร้องกันที่ศูนย์ดำรงธรรมกับหญิงชาว อ.ศรีธาตุ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตนก็ระวังตัวอยู่ตลอด เพราะเรื่องยังไม่จบ ยังมีการฟ้องร้องกันอยู่ และเรื่องอยู่ในชั้นศาล ตั้งแต่นั้นก็ไม่ได้รับทำพิธี แต่ก็มารับงานของหญิงคนนี้เป็นครั้งแรก ก็มาเจอเรื่องแบบนี้เลย จึงเชื่อว่าเป็นการใส่ร้าย และทำเป็นขบวนการ ต้องการทำให้ตนเองเสื่อมเสียชื่อเสียง อยากจะใส่ร้ายตน อยากจะแจ้งจับตน ก็ให้ทำไป ตนเชื่อว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ยังไม่ได้แตะเนื้อต้องตัว ยังไม่ได้ล่วงละเมิดอะไรเลย อยากให้ดูสภาพอาศรมด้วย เป็นที่โล่ง มีคนอยู่ด้วยตลอด ตนจะไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร

ซึ่งปู่ฤาษีอุดร บอกเพิ่มเติมว่า ตนเองเป็นเพื่อนกับหญิงรายนี้ในเฟซบุ๊กมาหลายปี ไม่เคยมีการพูดคุยกันมาก่อน ก่อนจะทำพิธี 2 วัน หญิงคนนี้ได้ทักแชตมาหา ถามว่าตนเองเป็นฤาษีใช่หรือไม่ อยากให้ช่วยทำพิธีเสริมดวงชะตา เนื่องจากค้าขายออนไลน์ ยอดจำหน่ายไม่ค่อยดี พูดคุยกันจนมีการเปลี่ยนไปคุยผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ มีการถามถึงพิธีกรรมต่างๆ ตนก็อธิบายไปตามความเชื่อและวิชาที่ร่ำเรียนมา ทั้งเรื่องที่บอกว่าต้องใช้น้ำอสุจิของตนและน้ำกามผู้ทำพิธี เพื่อต้องการไปทำเสน่ห์ และการอธิบายถึงพิธีกรรมต่างๆ ตั้งแต่สมัยโบราณด้วย ที่อ้างว่ามีคลิปช่วยตัวเอง ก็เป็นภาพไม่ชัดเจน ยืนยันว่าไม่ได้กระทำแบบนั้น เป็นการตัดต่อ ภาพโป๊เปลือย ข้อความแชต สมัยนี้ก็สามารถตัดต่อขึ้นมาได้ทั้งนั้น จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับตนด้วย หากเสร็จสิ้นเรื่องราวของคู่กรณีที่ อ.ศรีธาตุ ตนจะฟ้องกลับหญิงรายนี้แน่นอน เพราะไม่เคยมีใจกับหญิงสาวคนนี้เลย

ด้าน นางวารุณี แม่ของปู่ฤาษีอุดร เล่าว่า ขณะทำพิธีบนอาศรม ที่เปิดโล่งไม่มีประตูหน้าต่าง มีตนและลูกหลานวิ่งเล่นอยู่บริเวณบ้าน โดยทำพิธีให้หญิงสาวคนดังกล่าวอยู่เกือบ 30 นาที หลังจากนั้นก็มีนักข่าวเข้ามา  จึงได้เลิกพิธี ในความคิดของตนคิดว่าลูกชายถูกกลั่นแกล้ง เพราะเอานักข่าวมาด้วย ทำให้เสียความรู้สึกอย่างมาก และคิดว่ามีการจัดฉากจับผิดลูกชายอย่างแน่นอน เพราะลูกชายไม่เคยมีพฤติกรรมอย่างนี้มาก่อน เพราะเวลาทำพิธีตนก็จะอยู่กับลูกชายทุกครั้ง และหญิงสาวคนดังกล่าวบอกตนว่าอยากไปพักอยู่รีสอร์ท เพราะที่นี่อากาศร้อน ไม่มีเครื่องปรับอากาศ และเป็นคนติดแอร์ สักพักก็บอกว่าหิวข้าว ลูกชายเลยบอกให้ตนไปทอดเนื้อมาให้กิน แต่หญิงสาวได้ปฏิเสธไม่กิน โดยบอกว่าให้ปู่ทำพิธีเสร็จแล้วจะออกไปกินข้าวข้างนอกกับลูกชายตน แต่โชคดีที่ลูกชายไม่ออกไปกินข้าวกับหญิงสาว ไม่เช่นนั้นคงเกิดเรื่องใหญ่โตมากว่านี้เป็นแน่ และขอยืนยันว่าลูกชายตนเอง ไม่ได้ชวนหญิงสาวที่มาทำพิธีไปนอนรีสอร์ท แต่เป็นหญิงสาวต่างหากที่อยากไปนอนห้องแอร์ที่รีสอร์ทเอง