วานนี้ (19 ก.พ. 66) ที่สำนักงานชมรมช่างภาพและสื่อมวลชนระยอง เลขที่ 31/20 ม.6 ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง ได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.จินดารัตน์ อายุ 26 ปี ชาวบ้าน ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์กระบะสี่ประตู สีดำ ยี่ห้อหนึ่ง ที่ซื้อด้วยเงินสด จากศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่ง ที่จังหวัดระยอง เมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่า เป็นรถยนต์ที่ถูกขายไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เท่ากับเป็นการหลอกลวง จึงมาขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน เพราะติดต่อไปที่ศูนย์รถแล้วแต่เรื่องก็ไม่คืบหน้า
น.ส.จินดารัตน์ เปิดเผยเอกสารหลักฐานว่า เมื่อวันที่ 16 มี.ค.63 ตนเองและ น.ส.วันทนา มารดา ได้ไปซื้อรถยนต์ดังกล่าว โดยซื้อผ่านเซลส์ชื่อ น.ส.กรประภา โดยซื้อด้วยเงินสดหักจากส่วนลด ราคา 627,000 บาท โดยขณะนั้นพนักงานในศูนย์ ได้พูดขึ้นมาว่า “ทำไมไม่เอารถใหม่ให้ลูกค้า” แต่ตนก็ไม่เอะใจ เพราะตรวจสอบแล้วทุกอย่างก็ปกติ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่ารุ่นใหม่รุ่นเก่าแตกต่างกันอย่างไร แค่เพียงอยากลองรถรุ่นนี้มาใช้ดูบ้าง เพราะที่บ้านก็มียี่ห้ออื่นอยู่แล้ว
หลังจากนั้นก็นำไปใช้ทำงาน แต่ก็เกิดปัญหาเกี่ยวระบบความร้อน แต่ก็แก้ไขได้ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 30 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ตนได้นำรถไปเคลมประกันกับทางศูนย์รถยนต์ เพราะคลัชหมด แต่พอเจ้าหน้าที่ของศูนย์ตรวจสอบ พบว่า รถคันนี้หมดประกันไปแล้ว อีกทั้งรถได้มีการขายไปก่อนแล้วตั้งแต่ ปี พ.ศ.2561 จึงสร้างความแปลกใจ เพราะตนเองพึ่งออกรถมา เมื่อปี 63
นอกจากนี้ยังพบว่า หมายเลขเครื่องยนต์กับหมายเลขตัวถังไม่ตรงกันกับที่ระบุไว้ในเล่มทะเบียนรถอีกด้วย ซึ่งได้ติดต่อไปที่สำนักงานขนส่ง ก็ไม่สามารถต่อทะเบียนได้ เพราะหมายเลขเครื่องเป็นคนละหมายเลข นั้นหมายความว่ารถยนต์เป็นรถเก่ามาสวมขายให้ใหม่ หรือ นำเครื่องยนต์เก่ามาสวมใหม่ ซึ่งตนเสียความรู้สึกมาก เพราะรถยนต์คันนี้เป็นคันแรก
น.ส.จินดารัตน์ เปิดเผยต่อว่า หลังจากทราบความจริง จึงติดต่อกับทาง ผู้จัดการศูนย์รถยนต์ และได้มีการประชุม แต่ก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่าผู้บริหารไม่อยู่ไปต่างประเทศ แต่ต่อมาก็มีการแจ้งมาว่า จะเพิ่มประกันรถยนต์ให้อีกสองปีเพื่อให้เรื่องยุติ แต่ตนไม่ยอม จึงนำเรื่องเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง ไว้เป็นหลักฐาน และแจ้ง สคบ.ระยอง ซึ่งทางบริษัทได้นัดเจรจาหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า ไม่เคยพบผู้บริหาร กลับอ้างว่าผู้บริหารไม่อยู่ไปต่างประเทศทุกครั้ง จึงไม่ทราบว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร
“อุตส่าห์เก็บเงินมาซื้อรถด้วยเงินสด แต่กลับถูกหลอกลวง ทั้งที่เป็นศูนย์รถยนต์มาตรฐาน จึงไว้ใจ ขอวิงวอนให้ทางผู้บริหาร ช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย ต้องการให้รับผิดชอบเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ให้ เพราะเสียเงินซื้อรถใหม่ป้ายแดง แต่กลับได้รถยนต์เก่าที่ผ่านการใช้ไปแล้ว 2 ปี จึงขอความเห็นใจ และจะขอต่อสู้ให้ถึงที่สุด กับเงินที่ได้จากหยาดเหงื่อแรงกายร่วมล้านบาทที่เสียไป แต่ต้องมาถูกหลอกลวง”
ด้าน นายสมศักดิ์ ผู้บริหารศูนย์รถยนต์ ได้กล่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตนเองจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะยังไม่ทราบเรื่อง และเตรียมเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ เพื่อให้จบเรื่องโดยเร็วที่สุด
คลิปอีจันแนะนำ
ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ลุยสุดกำลัง 19 เดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ