3 เดือน ฝีดาษวานรระบาด ทั่วโลกยังจับตา!

3 เดือน ฝีดาษวานรระบาด ทั่วโลกยังจับตา! ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อทั่วโลกกว่า 2.2 หมื่นคน ใน 76 ประเทศ

การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิง ปี 2565 เริ่มที่อังกฤษเป็นประเทศแรกที่มีรายงานผู้ติดเชื้อ “ฝีดาษลิง” (Monkeypox) เมื่อวันที่ 7 พ.ค.65 หลังเดินทางกลับจากไนจีเรีย

ทำให้เกิดความกังวลใจกันว่า โรคฝีดาษลิง หรือโรคฝีดาษ (Smallpox) ที่เคยระบาดในอดีต จะกลับมาระบาดอีกครั้ง

จากนั้นเมื่อวันที่ 18 พ.ค.65 สำนักงานสาธารณสุขรัฐแมสซาชูเส็ตส์ สหรัฐฯ ยืนยันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง เป็นชายที่เดินทางกลับจากแคนาดา เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อ 12 พ.ค.65 นับเป็นผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในสหรัฐฯ คล้อยหลังไม่ถึง 1 เดือน สหรัฐฯ ยกระดับการเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิง หลังพบผู้ติดเชื้อทั่วโลกเกินพันคน เช่นเดียวกับอังกฤษที่กำหนดให้ต้องรายงานการพบผู้ป่วยต้องสงสัยสัยโรคดังกล่าว

ขณะที่ประเทศไทย กรมควบคุมโรค ยืนยันพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายแรกในไทย เมื่อวันที่ 21 ก.ค.65 ที่ จ.ภูเก็ต เป็นเพศชาย สัญชาติไนจีเรีย อายุ 27 ปี มีประวัติเดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย ส่วนวันที่ 28 ก.ค.65 ยืนยันผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 2 เป็นชายไทยอายุ 47 ปี ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ

กระทั่งวันนี้ (3 ส.ค.65) กรมควบคุมโรค ยืนยันการพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายที่ 3 แล้ว โดยรายที่ 3 นี้ เป็นชายชาวเยอรมัน อายุ 25 ปี เดินทางเข้ามาประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 ก.ค.65 เพื่อมาท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ผลการสอบสวนโรคเบื้องต้นเชื่อว่าติดเชื้อก่อนเดินทางเข้ามาประเทศไทย อยู่ระหว่างการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด

สธ. เผย ไทยพบผู้ป่วย ฝีดาษวานร รายที่ 3 ที่ ภูเก็ต เป็นชาย ชาวเยอรมัน

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคฝีดาษวานรไม่ใช่โรคที่อาการรุนแรง ไม่ใช่โรคที่ติดต่อได้ง่าย กรณีผู้ป่วยยืนยัน 2 รายแรกของไทย ยังไม่พบว่ามีผู้สัมผัสใกล้ชิดรายใดติดเชื้อ แต่ยังอยู่ในการเฝ้าสังเกตอาการจนครบ 21 วัน และผู้ป่วย 2 รายก็อาการดีขึ้นโดยไม่ต้องกินยาต้านไวรัส

นพ.โอภาส กล่าวว่า ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า 98% ของผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง มีประวัติชายรักชาย และสอดคล้องกับข้อมูลของไทย ว่าเป็นชายทั้งหมด โดยแบ่งเป็นชาวต่างชาติ 2 ราย และชาวไทย 1 ราย ดังนั้นความเสี่ยงคือ การสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยฝีดาษวานรชาวต่างชาติ

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้การระบาดของโรคฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 65 ภายหลังพบรายงานผู้ป่วยทั่วโลก มากกว่า 16,000 ราย จาก 75 ประเทศ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย

WHO ประกาศ ฝีดาษวานร ภาวะฉุกเฉินฯระหว่างประเทศ

สำหรับสถานการณ์โรคฝีดาษวานรทั่วโลก ข้อมูล ณ วันที่ 31 ก.ค.65 พบผู้ป่วยยืนยัน ทั่วโลก 22,816 ราย ใน 76 ประเทศทั่วโลก โดยประเทศที่มีผู้ป่วยสูง 5 ลำดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 5,189 ราย สเปน 4,386 ราย เยอรมัน 2,595 ราย อังกฤษ 2,469 ราย และฝรั่งเศส 1,955 ราย

หากดูสถานการณ์ล่าสุดของประเทศที่มีผู้ติดโรคฝีดาษลิงมากที่สุด พบว่า ฝรั่งเศสเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนฝีดาษลิงในปารีสแล้ว หลังมีผู้ติดเชื้อกว่า 1,700 คน ขณะที่นครซานฟรานซิสโกถือเป็นเมืองแรกในสหรัฐฯ ที่ประกาศให้โรคฝีดาษลิงเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข แม้รัฐบาลกลางยังไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับประเทศ

ด้านสเปนและบราซิล ก็มีรายงานพบผู้ป่วยฝีดาษลิงเสียชีวิตครั้งแรกของประเทศ และเป็นผู้เสียชีวิตด้วยโรคฝีดาษลิงนอกทวีปแอฟริกาเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 29 ก.ค.65

แม้วันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีไม่มากเท่ากับการแพร่ระบาดของโควิด 19 โดยสาเหตุที่จะทำให้ติดเชื้อได้เกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดทางกาย กิจกรรมทางเพศ ละอองฝอยน้ำลายน้ำมูก การปนเปื้อนสิ่งของเครื่องใช้และเสื้อผ้า

วิธีที่กรมควบคุมโรค แนะนำในการป้องกันตัวจากโรคฝีดาษลิง มี 7 วิธี ได้แก่ 1.ล้างมือบ่อย ๆ 2.เว้นระยะห่าง 3.เลี่ยงมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก 4.ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น 5.เลี่ยงใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีตุ่มหนอง 6.กินอาหารปรุงสุก และ7.สงสัยว่าป่วย ควรพบแพทย์ทันที

โรคฝีดาษวานร หรือ โรคฝีดาษลิง วันนี้ยังไม่รู้ว่าจะจบอย่างไร และทุกประเทศทั่วโลกยังคงจับตาและเฝ้าระวังกันอย่างใกล้ชิด

อีจัน ขอให้ทุกคนดูแลตัวเองให้ดี และทำตาม 7 วิธีป้องกันโรคฝีดาษลิงด้วยนะคะ

คลิปอีจันแนะนำ
ความในใจ เจ้าสาวโดนออแกไนซ์เทงานแต่ง