จากการเปิดเผยของเว็บไซต์ “อินเตอร์เนชันส์” (InterNations) สื่อชุมชนออนไลน์เปรียบเสมือนคู่มือชาวต่างชาติทั่วโลก แบ่งปันประสบการณ์ความปลอดภัยสำหรับใครที่ต้องการท่องเที่ยวหรือตั้งรกรากในต่างประเทศที่เต็มไปด้วยคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จากเพื่อนชาวต่างชาติ โดยมีสมาชิกทั่วโลกกว่า 4.5 ล้านคน ระบุว่า จากการสำรวจซึ่งได้รับการตอบกลับจากสมาชิกจำนวนมากกว่า เกี่ยวกับ “เมืองที่น่าอยู่และน่าทำงานที่สุดในโลก”สำหรับชาวต่างชาติในปี (2022)
ซึ่งได้รับการตอบกลับจากสมาชิกจำนวนมากกว่า 11,970 คน ซึ่งเป็นตัวแทนของ 177 สัญชาติและอาศัยอยู่ใน 181 ประเทศ ได้มีการนำเสนอภาพรวมของเมืองที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด 50 เมืองสำหรับชาวต่างชาติทั่วโลก ผลปรากฏว่า เมืองที่ได้รับการโหวตจนติด 10 อันดับแรกจากทั้งหมด 50 เมือง หรือ Top 10 ในการสำรวจครั้งนี้ เรียงจากอันดับ 1 ถึง 10 ได้แก่
1. บาเลนเซีย ประเทศสเปน
2. ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
3. เม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก
4. ลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
5. มาดริด ประเทศสเปน
6. กรุงเทพฯ ประเทศไทย
7. บาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
8. เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
9. อาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
10. สิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์
โดยกรุงเทพมหานครอยู่ในอันดับที่ 6 จาก 50 เมืองในการจัดอันดับเมืองสำหรับชาวต่างชาติประจำปี 2022 ซึ่งทำผลงานได้ดีที่สุดเกี่ยวกับค่าครองชีพที่ต่ำและการที่น่าทำงานที่สุดในโลก ซึ่งชาวต่างชาติสามารถสนุกกับชีวิตโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเงิน ซึ่งผลการสำรวจของชาวต่างชาติที่มีต่อกรุงเทพฯ พบว่า
79% มีความสุขกับชีวิตโดยทั่วไป
69% มีความสุขต่อค่าครองชีพ
54% ระบุว่าสามารถพบเพื่อนใหม่ได้ง่าย
66% มีความสุขต่ออาชีพการทำงาน
68% มีความสุขต่อความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต
82% มีความสุขต่อคุณภาพการดูแลรักษาทางการแพทย์
ทั้งนี้จากการที่กรุงเทพมหานครถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 6 จาก 50 เมืองในการจัดอันดับเมืองสำหรับชาวต่างชาติปี 2022 แต่กลับติดอันดับที่ 2 ของโลกในด้านความสุขต่อค่าครองชีพ โดยชาวต่างชาติเพียงพอใจกับค่าครองชีพทั่วไป (69% เทียบกับ 45% ทั่วโลก) รวมถึงความสามารถในการจับจ่ายยังเป็นจุดเด่นในความสุขกับชีวิตโดยรวม ในทางกลับกันชาวต่างชาติจัดอันดับเมืองนี้ไว้ที่ 42 ในด้านความสุขต่อความสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต เมื่อถูกตั้งคำถามว่าอะไรที่ชาวต่างชาติชอบมากที่สุดเกี่ยวกับชีวิตในกรุงเทพฯ มีชาวต่างชาติชาวอังกฤษคนหนึ่งอ้างถึง “ วัฒนธรรม ความเป็นมิตร และทัศนคติที่ดีต่อการใช้ชีวิต ”” จึงไม่น่าแปลกใจที่ 78% รู้สึกเหมือนอยู่บ้านระหว่างใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ (เทียบกับ 62% ทั่วโลก) และกรุงเทพฯยังถูกจัดอันดับที่ 4 ของเมืองที่เหมาะต่อการตั้งถิ่นฐาน ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจในไทยโดยรวมซึ่งจากข้อมูลข้างต้นถ้าใครพอจะมองออก คงนับเป็นแผนให้ได้เตรียมพร้อมรับมือกับการหลั่งไหลในเชิงเศรษฐกิจและท่องเที่ยวที่จะมีผลดีขึ้นมาได้อย่างชัดเจนขึ้น ใครมีแผนธุรกิจก็สามารถวางเป้าได้ตรงจุดมากขึ้น
อ้างอิง : www.internations.org
คลิปอีจันแนะนำ
ตำนานวัดร้างเมืองชุมพร EP.6 มาเที่ยวได้แต่ห้ามทำลายนะจ๊ะ