ศาลฎีกายกฟ้อง-ถอนหมายจับ ยิ่งลักษณ์ คดีย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยกฟ้อง-เพิกถอนหมายจับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คดีโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี พ้นเลขาฯ สมช. ชี้ไม่มีเจตนาพิเศษ

เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 66 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง มีคำพิพากษาคดี หมายเลขดำที่ อม.11/2565 ที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหากระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีมีการแต่งตั้งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลาขาธิการสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ นั้น 

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ล่าสุด ศาลฎีกาได้มีคำสั่งยกฟ้องและเพิกถอนหมายจับในข้อหาตามมาตรา 157 หลังจากทำการไต่สวนและใช้ดุลยพินิจแล้วว่า ไม่มีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ หลังจากพิเคราะห์แล้วว่า การที่อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ใช้อำนาจในการแต่งตั้งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี นั้น ไม่ได้มีเจตนาพิเศษ ที่จะสร้างความเสียหาย 

ขณะเดียวกันการแต่งตั้งโยกย้าย เป็นไปตามระเบียบ ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่สมัย พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา อีกทั้งจากการไต่สวนยังพบว่า การโยกย้าย นายถวิล ไม่ได้มีเจตนาสมคบคิดกันแต่อย่างใด ทุกขั้นตอนดำเนินการเป้นไปอย่างปกติ ไม่พบพิรุธใด ที่แสดงถึงการทุจริตต่อหน้าที่ที่จะเสนอให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น 

นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการ สมช.

ทั้งนี้ หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี และ นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทีมทนายความประจำตัว อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เผยว่า ขอบคุณศาลฎีกา ที่พิจารณาจากเจตนา และถือว่าต้องเป็นกรณีศึกษาทางข้อกฎหมาย เพราะจะเห็นได้ชัดว่าศาลฎีกา ไม่ได้หยิบคำพิพากษาของศาลปกครอง และศาลรัฐธรรมนูญมาพิจารณาด้วย เหตุผลว่าเป็นคนละกรณี 

หากอัยการจะมีการยื่นอุทธรณ์ในที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ก็ต้องพิจารณาก่อนว่าเขาอุทธรณ์ในประเด็นใด แต่การจะยื่นอุทธรณ์ได้จะต้องผ่านด่านแรก คือการรับคำอุทธรณ์ ซึ่งเป็นมติจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาก่อน