
วันนี้ (26 พ.ค. 66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีปมร้อนทางการเมือง ในประเด็นของเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีข้อขัดแย้งกันระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรค จะต้องมีการพูดคุยกัน ว่าแต่ละพรรคมีความต้องการอย่างไร ดังนั้น ควรกลับมาเจรจาผ่านทีมเจรจา ที่จัดตั้งกันไว้ ก่อนที่จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อปรับความเข้าใจให้ตรงกัน โดยยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง และพรรคร่วมจะต้องจับมือกันให้แน่น เพื่อเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลร่วมกันต่อไป
สำหรับจุดยืนของพรรคก้าวไกล ในเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น นายพิธากล่าวว่า ขอให้คณะพูดคุยได้มีการเจรจาก่อน แต่ยังคงย้ำว่า พรรคก้าวไกลเชื่อใจในพรรคเพื่อไทย ว่าจะไม่ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วม และสามารถทำงานร่วมกันได้ เพราะในการทำงานร่วมกันจะต้องเริ่มต้นจากความเชื่อใจ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะสามารถปรับความเข้าใจกันได้ มั่นใจว่า จะมีทางออกของปัญหา และไม่ถึงขั้นว่าจะต้องมีการเปิดฟรีโหวต ในการลงมติเพื่อเลือกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยบางส่วน สนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายพิธาเห็นว่า ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็น แต่เมื่อทั้ง 2 พรรค มีโอกาสพูดคุย และมีประชาชนฝากความคาดหวังกับพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลแล้ว พรรคร่วมจึงควรมาพูดคุยกัน เพราะยังมีความท้าทายอื่นรออยู่อีก ซึ่งเรื่องประธานสภาฯ อาจเป็นปัญหาเล็ก ๆ และทุกฝ่ายสามารถนำข้อเสนอวางบนโต๊ะเจรจา เพื่อพูดคุยกันได้ เพราะถือเป็นเรื่องปกติของการทำงานที่จะมีความเห็นต่างกัน จึงต้องพูดคุยกันอย่างมีเหตุผล
นายพิธา ยังกล่าวถึงขั้นตอนภายหลังที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศจำนวน ส.ส.อย่างเป็นทางการแล้ว ว่าทีมเจรจาของพรรคร่วมจะต้องพูดคุยกันให้หนักขึ้น และทำให้การถ่ายโอนอำนาจไร้รอยต่อให้มากที่สุด เพื่อเมื่อถึงตอนที่จัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว จะสามารถดำเนินภารกิจต่อได้ทันที