ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดวันพิจารณาคดีสำคัญในวันที่ 31 ม.ค.67 โดยเป็นคดีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ได้ยื่นข้อร้องต่อศาลเพื่อพิจารณาตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล ในการเสนอร่างกฎหมายเพื่อยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียงของพรรค
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.66 ศาลได้จัดการไต่สวนพยาน 2 ปาก คือ นายพิธา และ นายชัยธวัช ตุลาธน ที่ศาลรัฐธรรมนูญ และได้มีการปรึกษาหารือ และลงมติ ซึ่งการตัดสินใจของศาลในวันพรุ่งนี้ จะเน้นว่า การกระทำของ นายพิธา และพรรคก้าวไกล นั้นเป็นการใช้สิทธิ์ในการล้มล้างระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ ตามที่มาตรา 49 ระบุ ซึ่งเป็นคำถามสำคัญที่มีผลกระทบต่อทิศทางทางการเมืองและกฎหมายของประเทศ
ศาลได้กำหนดเวลาแถลงการณ์และปรึกษาหารือในเวลา 09.30 น. วันที่ 31 ม.ค.67 และจะประกาศคำวินิจฉัยในเวลา 14.00 น. ซึ่งการตัดสินของศาลจะสะท้อนถึงการตีความและการใช้กฎหมายในบริบทการเมืองปัจจุบัน
คดีนี้ได้รับความสนใจจากสังคมและนักวิเคราะห์ทางการเมืองอย่างมาก เนื่องจากมีผลกระทบทั้งในด้านสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง รวมถึงความมั่นคงของระบอบประชาธิปไตย การตัดสินของศาลจะเป็นจุดบ่งชี้สำคัญต่อทิศทาง และกรอบการใช้กฎหมายในอนาคต
ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่า สำหรับใน 31 ม.ค. คำวินิจฉัย ความเป็นไปได้จะมี 3 แนวทาง
1.ศาลอาจตัดสินว่าไม่มีการพยายามล้มล้างระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และสั่งยกคำร้อง
2.ศาลอาจตัดสินว่าไม่มีการพยายามล้มล้างระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่สั่งให้หยุดการกระทำที่กล่าวถึง
3.ศาลอาจตัดสินว่ามีการพยายามล้มล้างระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และสั่งให้ยุบพรรคที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.ปริญญา เห็นว่า แนวทางที่ 3 นั้นไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจากข้อเรียกร้องในคำร้องไม่ได้หมายถึงประเด็นดังกล่าว
ทั้งนี้ ยังมีเห็นว่าแนวทางที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด คือ แนวทางที่ 1 และ 2 โดยเชื่อว่า ศาลจะเลือกแนวทางที่ 2 ซึ่งหากศาลสั่งหยุดการกระทำ ต้องรอดูรายละเอียดว่า จะหยุดการกระทำในด้านใด ไม่ว่าจะเป็นการห้ามใช้วิธีการหาเสียงในอนาคต หรือหมายถึงการกระทำที่เกี่ยวข้องโดยตรง ดังนั้น ต้องรอดูคำวินิจฉัยจากศาลในวันที่ 31 ม.ค.67 นี้เพื่อความชัดเจน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
