จม.เปิดผนึก 3 ผู้เสียหาย ถึงก้าวไกล เสียใจที่ไม่ขับ ปูอัด พ้นพรรค

3 ผู้เสียหาย ร้องเรียน สส.ปูอัด คุกคามทางเพศ ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง กก.บห. และ สส.พรรคก้าวไกล เสียใจการลงมติของพรรค ระบุต้องใช้หลักฐานแค่ไหนถึงเหมาะสมกับความผิด

หลังพรรคก้าวไกลมีมติไม่ขับ สส.ปูอัด นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. เขตจอมทอง-บางขุนเทียน-ท่าข้าม จากกรณีถูกร้องเรียนเรื่องคุกคามทางเพศ ก่อนจะได้รับเพียงการคาดโทษและตัดสิทธิ์พึงมีตลอดการเป็นสมัย สส.  

ก่อนที่วานนี้ เจ้าตัวจะออกมาแถลงการณ์ขอโทษ พร้อมเยียวยาผู้เสียหาย แต่ยืนยันจะไม่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค แต่จะรอให้ กกต. ตัดสินว่ากรณีดังกล่าวมีความผิดหรือไม่ หากผิดจริงก็พร้อมพิจารณาลาออก   

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกจาก 3 ผู้เสียหายที่ร้องเรียน สส.ปูอัด ในประเด็นคุกคามทางเพศ ถึง กก.บห.-สส.ก้าวไกล โดยระบุว่า เสียใจต่อการแสดงออกของ 22 สส. ที่ไม่ขับออก-ไม่ร่วมประชุม พ้อ ต้องมีหลักฐานมากขนาดไหน จึงจะเหมาะสมกับความผิดจนสามารถขับออกจากพรรคได้ ชี้ ควรกระดากปาก หากพูดประเด็นการต่อสู้เรื่องล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนทิ้งท้ายว่า ก้มโค้งจนหลังหัก ขอโทษจนหมดเสียง ก็ไม่สามารถชดเชยอะไรได้ 

จดหมายเปิดผนึก 

เรียนกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล 

ในฐานะอดีตผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ต่อการแสดงออกของ สส. ที่ปรากฎในหน้าข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ และการตัดสินใจของเพื่อนสมาชิกพรรคก้าวไกล 

การตัดสินครั้งนี้เต็มไปด้วยคำถามนับไม่ถ้วน ทั้งจากผู้สนับสนุน และไม่สนับสนุนพรรคก้าวไกล ซึ่งสร้างความรู้สึก “น่าเสียใจ” เป็นอย่างยิ่ง  

และในฐานะของอดีตผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล คณะทำงานของพรรคก้าวไกล อย่างเราก็รู้สึกว่า คุ้มค่าไหมกับการเดินทางร่วมกับพรรคก้าวไกลที่ผ่านมา กับการทำงานเยี่ยงวัวควาย เพื่ออุทิศให้กับอุดมการณ์พรรค และช่วยเหลืองานแก่ผู้แทนฯ ที่เราเชื่อมั่น  

อยากให้สมาชิกผู้ทรงเกียรติได้ตระหนักสักนิดว่า การล่วงละเมิดทีมงานผู้ช่วยหาเสียง เป็นเรื่องที่ยอมรับได้หรือไม่ และต้องมีหลักฐานมากขนาดไหน จึงจะเหมาะสมกับความผิดจนสามารถขับออกจากพรรคได้ 

พวกเรายอมละทิ้งหน้าที่การงาน อนาคต และการเติบโตชีวิตตามวัย เพื่อแลกกับอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกล ความเชื่อ ความฝัน ที่หวังว่า พวกเราจะได้มีส่วนร่วมการเปลี่ยนแปลงสังคม โดยการทำงานช่วยเหลือผู้แทนฯ ช่วยหาเสียง ตลอดจนสนับสนุนกิจกรรมของพรรคที่ผ่านมา 

แต่การแสดงของของผู้แทนฯ คนดังกล่าว และสมาชิกพรรคบางส่วน ที่เลือกที่จะงดออกเสียง หรือ ไม่เห็นด้วย กับการขับผู้แทนฯ คนดังกล่าวนั้นท่านคิดดีแล้วจริงๆหรือ? 

สส. 22 คนที่มีมติงดออกเสียง หรือ มีมติไม่ขับ สส.ที่สร้างเรื่องควรจะตั้งคำถามกับตัวเอง ถึงความเหมาะสมของตนเองในการดำรงตำแหน่ง และเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ กับการตัดสินใจดังกล่าว ที่สร้างภาพลักษณ์ไม่ดีให้แก่พรรค และท่านควรกระดากปากเมื่อท่านได้มีโอกาสพูดที่ใดก็ตามเกี่ยวกับประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศ ในตลอดอายุของการเป็น สส. และหมดวาระ 

สุดท้ายนี้บทลงโทษที่สาสม แก่ผู้ที่กระทำการล่วงละเมิด การขับออกจากพรรค หรือ การลาออกจาก สส. คงไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดสักทาง เพราะบาดแผลที่ท่านก่อ มันยังคงสร้างความจดจำแก่เหยื่อ และตั้งคำถามว่า “เขาผิดอะไร?” “ทำไมพรรคที่เขารักจึงทำกับเขาแบบนี้?” 

และคงไม่คาดหวังว่า พรรคก้าวไกลจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน หากตราบาปอย่าง สส.ผู้ก่อเหตุ และ 22 สส.ที่นิ่งเฉย ยังมีบทบาทในสภาฯ 

“ก้มโค้งจนหลังหัก ขอโทษจนหมดเสียง ก็ไม่สามารถชดเชยอะไรได้” 

ความเสียใจที่สุดในชีวิตของผู้เขียนคือการได้มีส่วนร่วมทางตรง หรือทางอ้อม ในการส่ง สส.ที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศดังกล่าว ได้เข้าไปแปดเปื้อนในสภาอันทรงเกียรติ และกินภาษีของประชาชนอันเป็นที่รัก 

ขอลงท้ายจดหมายฉบับนี้ด้วยความผิดหวัง และคำหยาบคายที่อยากกล่าวอีกมากมาย 

จากผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล”