ศาลรธน.เรียกหลักฐานเพิ่ม ‘ก้าวไกล’ หาเสียงแก้ ม.112 ‘พิธา’ ถือหุ้นสื่อ

ศาลรัฐธรรมนูญ ให้เวลา ‘พิธา-ก้าวไกล’ 15 วัน ส่งหลักฐานเพิ่ม ปมถือหุ้นสื่อไอทีวี-หาเสียงแก้ ม.112 ล้มล้างการปกครอง

ไม่จบง่ายๆ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.66 สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้เผยแพร่เอกสารข่าวเผยแพร่ผลการประชุมกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคำร้อง นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 49 ว่า การกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 1 และ พรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ… เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ ต่อมาผู้ถูกร้องทั้งสองยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาพร้อมบัญชีระบุพยาน ฉบับลงวันที่ 26 ก.ย.66

อีกทั้ง ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปราย เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ สส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่ จากกรณีมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดอยู่ในวันที่สมัครรับเลือกตั้งสส.แบบบัญชีรายชื่อ ด้วย

ทั้งนี้ ในสองคดีดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา ให้บุคคล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็น และจัดส่งสำเนาเอกสาร หลักฐานตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

คลิปอีจันแนะนำ
เปิดใจ พิธา ให้สัมภาษณ์รายการแฉ แม้ไม่ได้เป็นนายกฯ