เปิดไทม์ไลน์ ระยะทางกว่าจะมีมติ! จากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวาระ 8 ปี สั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกรัฐมนตรี จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา
วันที่ 5 ส.ค.65
“ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อขอให้ทั้งสองหน่วยงาน เสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เกี่ยวกับสถานะนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ในวันที่ 24 ส.ค.2565 กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกฯ 2 ครั้ง แบ่งเป็น
ครั้งที่ 1 วันที่ 24 ส.ค.2557 ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557
และครั้งที่ 2 วันที่ 9 มิ.ย.2562 ตามรัฐธรรมนูญ 2560
ทำให้มีข้อถกเถียงในสังคมต่อเรื่องดังกล่าว โดยมีความเห็นแบ่งเป็น 3 ทาง
วันที่ 16 ส.ค.65
คณาจารย์คณะนิติศาสตร์จำนวน 51 คน จาก 15 มหาวิทยาลัย ได้ส่งจดหมายถึงประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในประเด็น “การนับระยะเวลาดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี”
โดยมีเนื้อหาระบุถึงตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 158 วรรคสี่ ได้บัญญัติไว้ว่า “นายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดํารงตําแหน่งติดต่อกันหรือไม่ …”
พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2557 จะเป็นนายกฯ ครบ 8 ปี ในวันที่ 24 ส.ค. 2565 จึงเกิดประเด็นปัญหาในข้อกฎหมายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงนายกฯ ต่อไปหลังจากวันที่ 24 ส.ค.ได้หรือไม่?
วันที่ 17 ส.ค.65
173 รายชื่อ ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย
ร่วมยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัยประธานรัฐสภา ขอส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์
วันที่ 22 ส.ค.65
เจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งหนังสือคำร้องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย วาระการดำรงตำแหน่งของนายกฯ
แต่ คำร้องของ นายศรีสุวรรณ ที่ยื่นไปถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ถูกตีตกไป
โดยที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติไม่ส่งประเด็นวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
โดยแจ้งว่า เหตุผลที่ประชุม กกต.มีมติไม่ส่งประเด็นดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น เนื่องจากเห็นว่าสมาชิกรัฐสภา นำโดย ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีการดำเนินการยื่นคำร้องผ่าน นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อส่งไปศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 แล้ว กกต.จึงไม่จำเป็นต้องพิจารณาต่อ
ขณะเดียวกัน ทางเสียงประชาชนที่เข้าร่วม “โครงการเสียงประชาชน” โดยนักวิชาการ 8 สถาบัน ร่วมกับสื่อมวลชน 8 สำนักข่าว ประกอบด้วยสื่อทีวีดิจิทัล และสื่อออนไลน์ ออกแคมเปญเปิดโหวตเสียงประชาชน เรื่อง ประเด็นที่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯ เกิน 8 ปีหรือไม่ เมื่อวันที่ 20-21 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยเป็นการโหวตผ่าน QR code มีผลสรุปว่า 93.17 % มีความเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรอยู่เกิน 8 ปี และอีก 6.83 % สนับสนุนให้อยู่เกิน 8 ปี
วันที่ 24 ส.ค. 65 วันฟังผลมติวาระ 8 ปี กับการดำรงตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ศาลรัฐธรรมนูญ แถลงผลการประชุมคำร้องพิจารณาโดยศาลพิจารณาคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า
ข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้อง จึงมีมติเสียงข้างมาก (5 ต่อ 4) ให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2565 จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
สรุปคือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่มีมติจากที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญ
ซึ่งผู้รักษาการแทนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
คลิปอีจันแนะนำ
อัจฉริยะ ล้วงพรีมายา ลงทุน 6,000 กำไร 15 ล้าน จริงหรือหลอก