นายกฯ ชื่นชม “กองทัพ” แบ่งที่ทหารให้ประชาชนทำกิน

นายกฯ เผย กองทัพเตรียมนำที่ดินของกองทัพ แก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน ให้ประชาชนได้ทำกิน 9,276 ไร่ กำหนดส่งมอบให้ประชาชน 25 ธ.ค.66 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่

วันนี้ (31 ต.ค.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงหลังการประชุมชี้แจงมอบนโยบายแนวทางการปฏิบัติงานของ กอ.รมน. ว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องที่อยากให้ช่วยดู โดยหนึ่งในเรื่องที่ตนขอร้องซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 2 เดือนก็สามารถเห็นออกมาเป็นรูปธรรมได้ โดยความร่วมมือระหว่างภาคการเมืองกับทางด้านกองทัพ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน ซึ่งตนอยากให้ทางกองทัพมีส่วนร่วมในการพัฒนา ประเทศ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ร่วมแก้ไขปัญหาสังคมที่ต้นเหตุ คือความยากจน แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินโดยการนำพื้นที่ของหน่วยที่เกินความจำเป็นมาใช้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ที่ดินการเกษตร การใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อสร้างรายได้สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งทางด้านสังคมของประเทศ

นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ผมต้องขอชื่นชมทางกองทัพที่ได้ดำเนิน นโยบายการนำที่ดิน ภายใต้การดูแลของกองทัพมาให้ประชาชนใช้ประโยชน์เป็นรูปธรรมผ่านโครงการหนองวัวซอโมเดล ซึ่งมีพื้นที่รวม 9,276 ไร่ ใช้เวลาเพียง 1 เดือน โดยกำหนดส่งมอบถึงมือประชาชน ในวันที่ 25 ธันวาคมสิ้นปีนี้ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่ล้ำค่าต่อพี่น้องประชาชนจากกองทัพไทย เรื่องนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่กองทัพมีบทบาทในการพัฒนาศักยภาพของประเทศด้วยการสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดสรรทรัพยากร ซึ่งหวังอย่างยิ่งว่าจะขยายตัวไปยังพื้นที่ต่างๆ เรื่องนี้ ตนได้บอกว่าเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจริงๆแล้วโดยส่วนตัวผมมีความชื่นชมต่อเรื่องนี้ และเป็นเรื่องที่เราพูดคุยกันมาหนเดียวและภายในเวลาเดือนกว่าๆ ก็ออกมาเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน

นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้มีการหารือเรื่องปัญหา PM2.5 เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่ปัญหานี้แล้ กอ.รมน. จะสนับสนุนการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ เพื่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน เนื่องจาก กอ.รมน.มีทีมงานที่ทำงานร่วมกับนักวิชาการแขนงต่าง ๆ จนทำให้มีความรู้ความเข้าใจดียิ่ง ในการเปลี่ยนวัสดุการเกษตร ใบไม้แห้งในป่าเขาที่เคยถูกเผา สร้างฝุ่นควันพิษ ให้กลายเป็นเงิน สร้างรายได้ให้ประชาชน และยังทราบว่าขณะนี้มีความพร้อมจะขยายผลอย่างจริงจังแล้ว กอ.รมน. จะเป็นหน่วยงานสำคัญหน่วยหนึ่ง ที่จะช่วยแก้ปัญหาฝุ่นควันพิษ ปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน