รัฐบาลญี่ปุ่น รายงานยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 7.3 ตามมาตราแมกนิจูด บริเวณภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.07 น.คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 กุมภาพันธ์ 2564) พุ่งเกิน 150 รายแล้ว แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยสามารถบันทึกความรุนแรงได้ที่ระดับ 6 หรือสูงกว่า (Upper 6) ตามมาตรวัดความรุนแรงของญี่ปุ่น
ขณะบางพื้นที่ของจังหวัดฟุกุชิมะ และจังหวัดมิยางิ วัดได้สูงถึงระดับ 7 แม้ปราศจากคลื่นยักษ์สึนามิ แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลให้ไฟดับ น้ำไม่ไหล และบริการรถไฟหัวกระสุนหยุดชะงักในพื้นที่เสี่ยงภัย
นอกจากนั้นแผ่นดินไหวครั้งนี้ ยังสามารถรับรู้ได้ในพื้นที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง รวมถึงกรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศ และนอกจากจังหวัดฟุกุชิมะ และจังหวัดมิยางิแล้ว ยังมีรายงานผู้บาดเจ็บในอีก 6 จังหวัด อาทิ ชิบะ คานางาวะ และไซตามะ ซึ่งล้วนตั้งอยู่ใกล้กรุงโตเกียว
บริษัท โตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ คอมปานี โฮลดิงส์ (TEPCO) เผยว่า น้ำในบ่อเก็บกากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ได้ไหลทะลักท่วมพื้นที่ แต่ไม่ได้รั่วไหลในโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะไดอิจิ (Fukushima Daiichi Power plant) ซึ่งเคยเผชิญปัญหาการหลอมละลายของนิวเคลียร์จากแผ่นดินไหวใหญ่ และภัยพิบัติสึนามิที่พัดถล่มพื้นที่ เมื่อ 10 ปีก่อน ส่วนสาธารณูปโภคนิวเคลียร์อื่นๆ ยังไม่มีรายงานความผิดปกติใดๆ
ด้านนายโยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า รัฐบาลได้รับรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต พร้อมเรียกร้องประชาชนเฝ้าระวังเนื่องจากแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงระดับ 6 หรือสูงกว่า อาจเกิดขึ้นอีกครั้งในอีก 7 วันข้างหน้าขึ้นไป
นอกจากนี้ยังมีรายงานเสริมอีกว่า ประชาชนราว 950,000 ครัวเรือน ไม่มีไฟฟ้าใช้ในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนปัญหาจะถูกแก้ไขในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา