
(25 มิ.ย. 68) คณะกรรมาธิการแห่งชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชนเคนยา รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 400 ราย จากการชุมนุมประท้วงความรุนแรงของตำรวจและการทุจริตของรัฐบาลเคนยาทั่วประเทศ ในกรุงไนโรบี เมืองหลวงของเคนยา

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นระหว่างผู้ชุมนุมหลายพันคน รวมตัวบนท้องถนนเพื่อรำลึกถึงการชุมนุมประท้วงต่อต้านการขึ้นภาษีที่นำโดยกลุ่มเยาวชนเมื่อปี 2567 ก่อนที่จะเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งใช้แก๊สน้ำตา กระบองยิงใส่ และกระสุนจริง
รายงานระบุอีกว่า ท่ามกลางฝูงชนในกรุงไนโรบี ผู้ชุมนุมบางคนได้โบกธงเคนยาพร้อมป้ายที่มีภาพผู้ที่เสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว และตะโกนว่า “รูโตต้องออกไป” ซึ่งหมายถึง วิลเลียม รูโต ประธานาธิบดีเคนยา ผู้ซึ่งเสนอให้ขึ้นภาษี จนกลายเป็นชนวนเหตุให้เกิดการประท้วงในปีที่แล้ว

การชุมนุมฉลองวันครบรอบดังกล่าว เกิดขึ้นท่ามกลางความโกรธแค้นต่อความรุนแรงของตำรวจ โดยเฉพาะหลังจากที่คุณครูรายหนึ่งเสียชีวิต ระหว่างถูกควบคุมตัวเมื่อต้นเดือนนี้ หลังจากถูกจับในข้อหาวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่ระดับสูง

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของเคนยา กล่าวผ่านแถลงการณ์ต่อเหตุที่เกิดขึ้น ระบุว่า “การละเมิดกฎหมายใด ๆ ก็ตาม จะได้รับการแก้ไขผ่านสถาบันของรัฐ รวมถึงรัฐสภาและฝ่ายตุลาการ”
“กระทรวงฯ ขอเตือนให้ทุกฝ่ายทราบว่า ความร่วมมือทางการทูตจะประสบความสำเร็จได้ดีที่สุด หากทั้งสองฝ่ายมีความเคารพซึ่งกันและกัน ช่องทางที่เปิดกว้าง และยอมรับบริบทการปกครองที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกันและกัน”

นอกจากนี้ สถานการณ์ในประเทศเคนยา ยังเกิดความไม่พอใจในกลุ่มคนรุ่นใหม่ต่อประธานาธิบดีรูโต ที่ให้คำมั่นว่า เศรษฐกิจจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำในปี 2022 ซึ่งประชาชนรู้สึกผิดหวังกับภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ คอร์รัปชั่น และภาษีที่สูง แม้ว่าการประท้วงเมื่อปีที่แล้ว จะทำให้รูโตต้องยกเลิกร่างกฎหมายการเงินที่ไม่เป็นที่นิยมก็ตาม ซึ่งรัฐบาลของเขากำลังพยายามอย่างยิ่ง ที่จะหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีโดยตรงในปีนี้
ขอบคุณข้อมูล : Al Jazeera