หลายปีที่ผ่านมา คนไทยจำนวนไม่น้อยเฝ้ารอคอยวันที่เราจะได้ใช้ “รถไฟความเร็วสูง” แบบที่เคยเห็นในต่างประเทศเสียที โดยเฉพาะเส้นทางยอดฮิตอย่าง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา หรือที่เราคุ้นหูกันว่า “กรุงเทพฯ-โคราช” ตอนนี้โครงการเฟสที่ 1 กำลังเดินหน้าก่อสร้างกันอย่างต่อเนื่อง และเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ว่า อีกไม่นานเราจะได้สัมผัสจริงวันนี้เราได้นำข้อมูลจาก Facebook : Max Puttipong’s post มาฝากลูกเพจอีจัน ได้อัปเดตความคีบหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงในประเทศไทย
เส้นทางนี้มีระยะทางรวม 250.77 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 90 นาทีเท่านั้น! ถ้าเทียบกับการขับรถที่ต้องใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง ถือว่าเร็วขึ้นแบบครึ่งต่อครึ่ง จุดที่น่าสนใจคือรูปแบบเส้นทางของโครงการนี้แบ่งเป็น 3 แบบ คือ ทางวิ่งระดับดิน 54.09 กิโลเมตร, ทางวิ่งยกระดับ 188.68 กิโลเมตร และอุโมงค์อีก 8 กิโลเมตร นี่เป็นโครงสร้างที่ต้องบอกว่า “ใหญ่และซับซ้อน” ในระดับประเทศเลยทีเดียว ระหว่างทางรถไฟจะจอดทั้งหมด 6 สถานี ได้แก่ สถานีกลางบางซื่อ , ดอนเมือง , อยุธยา , สระบุรี , ปากช่อง และปลายทางที่นครราชสีมา เส้นนี้เหมือนจะถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งนักเดินทาง นักท่องเที่ยว และคนทำงานที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว
ในเรื่องของราคาค่าโดยสารจะคิดตามระยะทางที่ใช้บริการ คือ 1.8 บาทต่อกิโลเมตร บวกกับค่าแรกเข้า 80 บาท หากเดินทางจากต้นทางที่กรุงเทพฯ ไปดอนเมืองจะเสียค่ารถไฟ 105 บาท ไปอยุธยา 195 บาท ไปสระบุรี 278 บาท ไปปากช่อง 393 บาท และไปนครราชสีมาเต็มเส้นจะอยู่ที่ 536 บาทต่อเที่ยว ฟังดูแล้วราคานี้อาจไม่ได้ถูกเท่ารถทัวร์หรือรถตู้ แต่เมื่อเทียบกับความรวดเร็วและความสบายที่ได้รับ ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่หลายคนยินดีจ่าย ขบวนรถไฟที่จะมาให้บริการในโครงการนี้คือ Fuxing Hao CR300AF ซึ่งเป็นรถไฟความเร็วสูงรุ่นเดียวกับที่ใช้ในประเทศจีน จำนวน 6 ขบวน แต่ละขบวนมี 8 ตู้โดยสาร รวมที่นั่งทั้งหมด 594 ที่นั่ง แบ่งเป็น First Class 96 ที่นั่ง และ Standard Class 498 ที่นั่ง โดยสามารถทำความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ตามแผนที่วางไว้ คาดว่าจะเปิดให้บริการจริงช่วงปี 2572-2573 ซึ่งก็นับว่าอีกประมาณ 5 ปีจากนี้ ไม่ใช่ระยะเวลาที่นานเกินรอ แต่ก็ยังต้องจับตาดูความพร้อมของระบบ ว่าจะก่อสร้างเสร็จตามกำหนดหรือไม่ เพราะระบบรถไฟความเร็วสูงแบบนี้ เรื่องความปลอดภัยต้องเป๊ะทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้ความเร็วหรือราคาค่าโดยสาร คือการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่น ๆ โดยเฉพาะในเมืองปลายทางอย่างโคราช เพราะต่อให้รถไฟจะเร็วแค่ไหน แต่ถ้าลงไปแล้วเดินทางต่อยาก คนก็อาจจะลังเลที่จะเลือกใช้ ถ้าทุกอย่างทำออกมาได้ดี นี่อาจกลายเป็น “เกมเปลี่ยน” ของระบบขนส่งไทยเลยก็ได้ กรุงเทพฯ ไปโคราช 90 นาที ไม่ต้องขับเอง ไม่ต้องเจอรถติด ชีวิตจะง่ายขึ้นมาก โอกาสทางเศรษฐกิจของทั้งสองจังหวัดก็อาจเติบโตแบบก้าวกระโดด
สุดท้ายนี้ก็ต้องรอดูว่าในอนาคต รถไฟขบวนนี้จะพาเราไปได้ไกลแค่ไหน ทั้งในเรื่องการเดินทาง และการพัฒนาเมืองของประเทศไทยครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก Max Puttipong’s po