
(วันนี้ 17 มิ.ย.68) ยุคนี้ใครๆ ก็จัดทริปเองได้ ตั้งแต่กลุ่มเพื่อน แก๊งทัวร์เล็ก ไปจนถึงเพจเฟซบุ๊กที่เปิดรับสมาชิกท่องเที่ยว แชร์ค่ารถ ค่าห้อง หรือเหมารถเที่ยวแบบหารกัน แต่ล่าสุดประกาศจากกรมการท่องเที่ยวทำให้หลายคนต้องสะดุ้ง เพราะ “การโพสต์ชวนเที่ยว” หากมีลักษณะเก็บเงินและแฝงผลประโยชน์ อาจเข้าข่าย ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
“การโพสต์โซเชียลชวนเที่ยว หรือรวมกลุ่มสมาชิกจัดทริป ไม่ว่าเที่ยวในประเทศหรือต่างประเทศ หากมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย และมีลักษณะเป็นการแสวงหากำไรทางธุรกิจ อาจเข้าข่ายประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต” หากผู้ใดขาย/จัดทัวร์โดยไม่มีใบอนุญาต ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ยังเน้นว่า นักท่องเที่ยวที่สนใจร่วมทริปควรสอบถามใบอนุญาตก่อนเสมอ เพื่อความปลอดภัยและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย

ประกาศนี้สร้างความสับสนให้กับผู้ใช้โซเชียลจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่คุ้นเคยกับการจัดทริปเองแบบกลุ่มเพื่อน มีคอมเมนต์หลายความคิดเห็นแสดงความไม่เข้าใจ เช่น ถ้าผมจะไปทะเล แล้วแค่โพสต์ชวนเพื่อน เท่านี้ก็ผิดเหรอ? , ต่างคนต่างจ่าย นัดกันไปเอง ไม่ได้หากำไร เข้าข่ายมั้ย?
จากภาพที่แชร์ ยังมีการชี้แจงเพิ่มเติมในคอมเมนต์ของกรมฯ ระบุว่า “เฉพาะกรณีเชิญชวนร่วมทริปโดยเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในลักษณะเป็นการแสวงหากำไร หรือประกอบธุรกิจ จึงจะเข้าข่ายต้องมีใบอนุญาตนำเที่ยว”
กรณีที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย
- โพสต์เชิญชวนเที่ยว โดยคิดค่าจัดการ หรือบวกกำไร
- มีการจองโรงแรม-รถให้ แล้วเรียกเก็บเงินทีหลัง
- จัดทริปให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วม โดยไม่รู้จักกันมาก่อน
กรณีที่อาจ “ไม่เข้าข่าย” (แต่ควรระวัง)
- กลุ่มเพื่อนสนิท นัดกันไปเที่ยว แบ่งกันจ่ายตามจริง
- ไม่มีหัวหน้าทริปที่เก็บเงินแล้วจัดการทั้งหมด
- ไม่ได้เปิดรับบุคคลภายนอก
การจัดทริปเองไม่ผิด แต่ถ้าโพสต์ชวนสาธารณะ มีลักษณะคล้ายขายทัวร์ ต้องระวังให้ดี เพราะอาจเผลอเข้าข่ายนำเที่ยวโดยไม่ขออนุญาตโดยไม่รู้ตัว ซึ่งผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551