คุมตัว สันติ มือฆ่าผัวเมียที่ไต้หวัน ฝากขัง!

ตำรวจคุมตัว สันติ มือฆ่า 2 สามีภรรยาที่ไต้หวัน ฝากขังศาล – แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ค้านประกัน

18 มิ.ย. 65 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม

( กก.4 บก.ป. ) ได้นำตัว นาย สันติ ผู้ต้องหาคดีฆ่า 2 สามีภรรยาที่ไต้หวัน มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกโดยพนักงานสอบสวนระบุในคำร้องสรุปว่า

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 65 ตำรวจไต้หวัน ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในรถ BMW ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายประเสริฐ อายุ 31 ปี และ น.ส.พจนีย์ อายุ 35 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ลูกฝาแฝด

จากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจไต้หวัน ทราบว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 65 เมื่อเวลา 22.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) นายประเสริฐ และ น.ส.พจนีย์ ได้ขับรถเดินทางมาพบ นายสันติ ที่สำนักงานของนายสันติ โดยได้จอดรถบริเวณลานจอดรถแบบเสียค่าธรรมเนียม จากนั้น น.ส.พจนีย์ ได้เดินเข้าไปพบ นายสันติ จากนั้น ผู้ต้องหา ได้ใช้ท่อนไม้ทำร้ายที่บริเวณศีรษะ ของ น.ส.พจนีย์ จนเสียชีวิต

จากนั้น นายประเสริฐ ก็ได้เข้าไปพบกับนายสันติ และนายสันติ ก็ได้ใช้ท่อนไม้ทำร้ายที่บริเวณศีรษะของนายประเสริฐจนเสียชีวิตอีกคน เมื่อก่อเหตุดังกล่าวแล้ว นายสันติ ได้นำศพของทั้งสองใส่ไว้ในของผู้ตาย ก่อนขับรถคันดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้ที่บริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเถาหยวน เขตเถาหยวน เมืองซินเป่ย สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของตำรวจไต้หวัน ที่บริเวณสำนักงานที่เกิดเหตุ และบริเวณลานจอดรถที่พบศพของผู้ตาย มีหลักฐานเชื่อว่า นายสันติ เป็นผู้ก่อเหตุลงมือฆ่าผู้ตายทั้งสองจน เสียชีวิตแล้วหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 65

และเนื่องจากคดีนี้เป็นการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร ผู้กระทำความผิดเป็นคนไทย ผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ และความผิดนั้นเป็นความผิดต่อชีวิต พนักงานสอบสวนจึงได้ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ ผู้ต้องหาที่ จ.1155/2565 ลงวันที่ 14 มิ.ย. 65 ต่อมาวันที่ 17 มิ.ย. 65 ตำรวจไต้หวันได้แจ้งข้อมูลสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ต้องหา ได้ร่วมกันกับนายสามารถ และ นายธนวัฒน์ วางแผนแบ่งหน้าที่กันและไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อฆ่า นายประเสริฐ และ น.ส.พจนีย์

โดยในวันเวลาเกิดเหตุ ได้รออยู่ในสำนักงานที่เกิดเหตุและผู้ต้องหาเป็นผู้ติดต่อให้ผู้ตายทั้งสอง เข้ามาในสำนักงานดังกล่าว แล้วร่วมกันใช่ท่อนเหล็กเป็นอาวุธตีที่ศีรษะของทั้งสองจนถึงแก่ความตาย

จากนั้น ผู้ต้องหาได้ใช้รถยนต์คันดังกล่าว นำศพของผู้ตายไปจอดทิ้งไว้บริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟฟ้า ความเร็วสูงเถาหยวน ก่อนเดินทางกลับประเทศไทยพร้อมกันโดยจองตั๋วเครื่องบินไว้ล่วงหน้า

ต่อมา ผู้ต้องหาได้หลบหนีหมายจับมาพักอาศัย อยู่ใน อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ กระทั่งวันที่ 17 มิ.ย. 65 พ่อของผู้ต้องหา ได้นำตัวผู้ต้องหามาเข้ามอบตัวกับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.4 บก.ป. ที่หมวดมวลชนสัมพันธ์ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 335 ต.เมืองมะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ ได้แสดงหมายจับของศาลอาญาให้ผู้ต้องหาดู และให้อ่านเองจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว ซึ่งผู้ต้องหารับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา” และแจ้งสิทธิให้แก่ผู้ต้องหาทราบ

ชั้นสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เหตุเกิดที่สำนักงานเช่า ถนนเหยี่ยนโซ่ว เขตเฉิง เมืองซินเป่ย สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน เมื่อวันที่ 4 มิ.ย 65 เวลาประมาณ 22.01 น. (เวลาท้องถิ่น) เวลาประเทศไทย ประมาณ 21.00 น.

การกระทำของผู้ต้องหา เป็นความผิดข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 4 ก (4), 23, 289 (4)

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน ได้ทำการสอบสวนผู้ต้องหามาโดยตลอดและควบคุมตัวมาจะครบกำหนด 48 ชั่วโมงแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นโดยจะต้อง รอผลการตรวจสอบประวัติพิมพ์มือ และประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา รวมถึงรอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง, รอพยานหลักฐานจากสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน), สอบพยานเพิ่มเติมอีก 20 ปาก ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากขังผู้ต้องหานี้มีไว้ 12 วัน ตั้งแต่วันที่18 -29 มิ.ย.นี้

ท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวน ขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง มีการก่อเหตุนอกราชอาณาจักร โดยผู้ต้องหาลงมือกระทำความผิดอย่างโหดเหี้ยม เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญทั้งที่ในไต้หวันและในประเทศไทย คดีเป็นที่สนใจของประชาชน ภายหลังลงมือก่อเหตุผู้ต้องหากับพวกหลบหนีความผิดมายังประเทศไทย เพื่อจะหลบหนีต่อไปยังประเทศที่ 3 ประกอบกับทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหามีการร่วมกระทำความผิดกับผู้ต้องหาอีก 2 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี และพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติม หากปล่อยตัวไปเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น

ศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

คลิปอีจัน แนะนำ