สาวไทย ถูกฝรั่งล่าแต้ม เจอกันในแอป ถูกบีบคอ ข่มขู่ แบล็กเมล

หนูร้องขอชีวิต “ได้โปรดปล่อยเราไปเถอะ”

หนูเชื่อคำพูดเขา เขาขอเเต่งงาน

สุดท้ายหนูถูกบีบคอ ถีบ ข่มขู่ แบล็กเมล

สาวไทย วัย 33 ปี ภายใต้หมวกสีฟ้า แมสก์สีดำ เสื้อคลุมของมูลนิธิปวีณา

เธอเล่าถึงเหตุการณ์สุดสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเธอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ฟัง หลังได้เจอกับ “โทมัส” ชายหนุ่มชาวอเมริกัน ผ่านแอปหาคู่…เธอถูกทำร้ายจากชายหนุ่มรูปงามคนนี้

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2566 เธอได้รับคำแนะนำจากเพื่อนให้เล่นแอปหาคู่ หลังเพื่อนของเธอเจอแฟนในแอปหาคู่ และ เพิ่งแต่งงานไป เธอจึงหวังว่าจะได้เจอเนื้อคู่จากแอปนี้เช่นกัน

แต่ทุกคนไม่ได้โชคดีเสมอไป…

เธอคุยกับ โทมัส ได้เพียงแค่ 3 วัน ก็ทำให้รู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้โปรไฟล์ดี ดีกรีทหาร ปลดประจำการ เดินทางเข้ามาไทย เพื่อหาคู่ชีวิต หาคนที่จะสร้างครอบครัวไปด้วยกัน  คุยได้ 3 วัน โทมัสก็นัดมาเจอ การได้เจอกันครั้งแรก เขาก็ทำเธออึ้ง โดยการ ขอเธอแต่งงานทันที

ทุกอย่างดูเร็ว และ ผิดปกติ เธอปฏิเสธพัลวัน ขอดูกันไปเรื่อยๆก่อน แต่ โทมัสกลับไปไม่ยอม หลังจากที่ได้เจอกัน และ ถูกปฏิเสธ โทมัส ก็เริ่มออกลาย แสดงท่าทีไม่พอใจ อารมณ์ร้อน และ ยิ่งทำให้เขาโมโหร้ายไปมากกว่านั้น คือ การที่เขาถูกปฏิเสธ จึงลงเอยด้วยการทำร้ายร่างกาย

“เขาบีบคอหนู … หนูอ้อนวอนเขา ได้โปรดปล่อยเราไปเถอะ แล้วจะไม่เอาเรื่องอะไร เขาก็ยอมปล่อย หนูหนีออกมา แต่ก็ตามมาทำร้ายซ้ำ”

โชคดีที่ตั้งสติทัน โทรหาตำรวจ จึงรอดปลอดภัยจากผู้ชายคนนั้น

เมื่อหนีออกมาได้ เธอตาสว่าง ได้เจอกับเหยื่อของผู้ชายคนนี้อีกหลายราย เจอพฤติกรรมรุนแรงแบบนี้ไม่ต่างกัน แต่เหยื่อรายอื่นๆ ถูกแบล็กเมล ส่งคลิปมาข่มขู่ทุกวัน

“เขาเก็บไฟล์คลิปเหยื่อทุกคนไว้ ทั้งชาวฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เกาหลี ไม่เเน่ใจว่าตัวเองจะโดนเเอบถ่ายไหม ระเเวงค่ะ เพราะ หนูคนเดียวไม่น่าจะรอด หลักฐานที่เหยื่อคนอื่นไปเห็น มีเเทบทุกคนเลย”

หลังจากที่ถูกคุมคาม เธอจึงติดต่อไปยังมูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ขอความช่วยเหลือ

วันนี้ (8 ม.ค.67) นางปวีณา หงสกุล จึงพาเหยื่อรายนี้ เข้าพบ บิ๊กโจ๊ก เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับชายหนุ่มอเมริกันคนนี้ เพราะ เป็นภัยต่อสังคม

บิ๊กโจ๊ก เผยว่า จากการตรวจสอบประวัติหนุ่มคนนี้ พบว่าเดินทางเข้าประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว โดยเดินทางเข้าประเทศไทยอยู่หลายครั้ง ตั้งแต่ กรกฎาคม 2565 เข้ามาอยู่ได้ 10-15 วัน เข้ามาอีกที สิงหาคม 2566 และ ล่าสุด วันที่ 4 ธันวาคม 2566 อยู่ยาวจนถึงตอนนี้

“คนเหล่านี้เห็นคนไทยใจดี เเล้วเข้ามาก่ออาชญากรรม พฤติกรรมเเบบนี้น่าจะทำมาก่อนหน้านี้ โดยทำให้ผู้หญิงตกเป็นเบี้ยล่าง ไปกดดัน เอาเงินเขา ได้ทั้งเนื้อตัว ได้ทั้งเงิน เป็นภัยต่อสังคมมาก หลอกให้หลงรัก สร้างสตอรี่ เเต่งงาน สตอรี่เดิมๆ ที่ทำให้ผู้หญิงไทยตกเป็นเหยื่อ ตอนนี้เช็กแล้ว ยังอยู่ในประเทศไทย กำลังหลอกเหยื่ออีกรายแถวลาดพร้าว หลังจากนี้ จะสั่งปิดกั้นทุกเส้นทาง จะรีบขอหมายจับ และ หมายค้นให้เร็ว เพื่อให้ผู้เสียหายมีความมั่นใจ” บิ๊กโจ๊กกล่าว

นอกจากนี้ ยังมีเหยื่ออีก 2 รายที่ถูกกระทำแบบนี้อีกด้วย

รายที่ 1 น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี อาชีพโปรแกรมเมอร์ เล่าว่า ได้รู้จักกับนายโทมัส ในแอปพลิเคชั่นหาคู่ โปร์ไฟล์เป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดี หลังได้พูดคุยกันอยู่ประมาณ 4 เดือน นายโทมัส บอกว่าตนเองเป็นอดีตทหารปลดประจำการ ขณะนี้ทำงานขับรถบรรทุกอยู่ที่อเมริกา ต้องการคบหากับผู้หญิงไทยที่นิสัยดีและสร้างครอบครัวที่อบอุ่น

หลังใช้เวลาอยู่ด้วยกันประมาณ 2 อาทิตย์ ตนจับได้ว่าที่ผ่านมาขณะที่นายโทมัสคุยกับตนก็ได้มีการคุยกับผู้หญิงหลายคนเช่นกัน ตนจึงได้บอกเลิกและยุติความสัมพันธ์ ซึ่งทำให้นายโทมัสไม่พอใจนำคลิปของตนไปเผยแพร่บนโซเชียล โดยสร้างแอคเคาท์ปลอมส่งคลิปมาให้ตนและคนที่รู้จักเป็นการประจาน จากนั้นตนก็ได้แจ้งความทางออนไลน์ไปถึงตำรวจอเมริกันแต่ก็ได้รับการตอบกลับว่านายโทมัสไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ซึ่งตนคาดว่าจะมีผู้หญิงไทยที่ถูกนายโทมัสหลอกอีกหลายคนจึงได้ตั้งกลุ่มในโซเชียลขึ้นมาเพื่อรวมตัวเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ และเพื่อเป็นการเตือนภัยผู้หญิงไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพรายนี้

เหยื่อรายที่ 2 น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี อาชีพพนักงานต้อนรับ เล่าว่า ตนได้รู้จักกับนายโทมัสในแอปพลิเคชั่นหาคู่ แอปฯ เดียวกันกับน.ส.เอ โดยวิดีโอคอลคุยกันอยู่หลายเดือน จนช่วงเดือนมิ.ย.65 นายโทมัสเดินทางมาหาและอยู่กินกันที่ห้องพักย่านบางชัน พร้อมกับจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยา ระหว่างที่อยู่ด้วยกันนายโทมัสมักจะมีอารมณ์ฉุนเฉียว เวลาโมโหจะทำลายข้าวของเสียหาย ทำร้ายทุบตีบาดเจ็บ

ต่อมาวันที่ 9 ก.ย.65 ตนจับได้ว่านายโทมัสแอบคุยกับผู้หญิงคนอื่นและมีการไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกับผู้หญิงชาวอินโดนีเซีย ที่ประเทศอินโดนีเซีย จึงได้ทะเลาะมีปากเสียงกัน และนายโทมัสได้ทำร้ายร่างกายตนโดยการบีบคอ เอาหมอนกดที่ใบหน้า ซึ่งวันนั้นก่อนที่นายโทมัสจะหนีไปได้ขโมยสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึงของตนไปด้วย ตนจึงได้ไปแจ้งความที่ สน.บางชัน ซึ่งตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปยื่นต่อศาลในการใช้ฟ้องหย่า 

หลังจากนั้นตนได้ติดต่อนายโทมัสเพื่อให้มาทำการหย่าให้เรียบร้อยแต่นายโทมัสก็ไม่ยอมมา แถมยังส่งคลิปโป๊ของตนและคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์ไปให้เพื่อนๆ และที่ทำงานของตนเพื่อประจานในโซเชียล ตนอับอายจนต้องลาออกจากงาน และเครียดจนป่วยเป็นแพนิค ต้องย้ายที่ทำงานจากกรุงเทพฯ ไปอยู่ที่จ.ภูเก็ต

ล่าสุดเดือนพฤศจิกายน 2566 ตนฟ้องหย่าและศาลมีคำสั่งอนุญาต ทำให้นายโทมัสโกรธมาก ตามคุกคามส่งคลิปโป๊และข้อความไปในกูเกิ้ลแมพรีวิวร้านอาหารที่ทำงานของตนที่จ.ภูเก็ต ระบุว่า ตนเป็นผู้หญิงขายบริการ ทำให้ตนอับอายมาก เหตุเกิดในพื้นที่สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต ตนต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อได้คุยกับน.ส.เอ ในกลุ่มซึ่งเป็นเหยื่อนายทอมเช่นเดียวกันจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

อีจัน ฝากเตือนผู้หญิงไทยทุกคนนะคะ

เรามีสิทธิ์เล่นแอปหาคู่ค่ะ แต่ก่อนที่จะตกลงคบกับใคร หรือ คุยกับใคร ขอให้เรามั่นใจว่า คนคนนี้จะไม่ทำร้ายเรา ดูใจกันนานๆ ให้รู้จักนิสัยกันก่อน เพราะไม่นั้น เราอาจจะตกเป็นเหยื่อได้ค่ะ

คลิปอีจันแนะนำ

สาวร้องมูลนิธิปวีณา ตกเป็นเหยื่อ ฝรั่งล่าแต้ม